BLOG

    Home Blog SAT อยากเข้า BBA TU ใช้คะแนนอะไรบ้าง? มาดูกัน

อยากเข้า BBA TU ใช้คะแนนอะไรบ้าง? มาดูกัน

อยากเข้า BBA TU ต้องใช้คะแนนอะไรบ้าง

หลักสูตรบริหารธุรกิจ เป็นอีกหนึ่งคณะยอดฮิตที่น้องๆ นักเรียนมัธยมปลายอยากเข้าศึกต่อในระดับปริญญาตรี โดยเฉพาะหลักสูตรนานาชาติที่มีการสอบเข้า และการแข่งขันค่อนข้างสูง ซึ่งมหาวิทยาลัยชั้นนำในประเทศไทยที่ได้เปิดสอนหลักสูตรนี้มีหลายแห่งอย่างเช่น BBA MUIC ของมหาวิทยาลัยมหิดล BBA CU ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และ BBA TU ของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นต้น 

สำหรับวันนี้เราจะพาน้องๆ ไปรู้จักกับคณะ BBA TU ซึ่งย่อมากจาก Bachelor of Business Administration Thammasat University เป็นคณะที่มีการเรียนการสอนเกี่ยวกับการบริหารธุรกิจ การเงิน การบัญชี และการตลาด ก่อนที่จะไปดูว่าการเข้า BBA TU  คะแนนสูงไหม และหลักสูตร BBA TU ใช้คะแนนอะไรบ้าง เราไปดูกันก่อนว่าหลักสูตรของ BBA TU นั้นเปิดสอนสาขาอะไรบ้าง และสาขาเหล่านั้นตรงกับความต้องการของเราหรือไม่ ไปดูกันเลย!

สาขาที่ BBA TU เปิดสอน

BBA TU สาขาที่เปิดสอน

มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นสถาบันแรกที่มีการเปิดสอนหลักสูตร BBA ขึ้นในประเทศไทย โดยสังกัดคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชีนั้น ได้มีการมุ่งเน้นฝึกให้นักศึกษามีมุมมองแบบโลกาภิวัตน์ (Global Perspectives) สามารถทำงานได้อย่างคล่องแคล่ว ถึงแม้ว่าจะอยู่ในสภาวะที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมกับมีทักษะในการสื่อสาร และการนำเสนอแนวทางธุรกิจได้อย่างมืออาชีพ ซึ่งหลักสูตร BBA TU ได้มีการเปิดสอนด้วยกัน 3 สาขา ดังนี้ 

การบัญชี (Accounting)

สาขาการบัญชี เป็นสาขาที่เน้นการเรียนรู้แนวคิดเกี่ยวกับการบันทึก และการวิเคราะห์รายการค้าทางธุรกิจ ว่ารายการต่างๆ ในการค้ามีผลกระทบต่อสินทรัพย์ หนี้สิน และเจ้าของกิจการอย่างไรบ้าง นอกจากนั้น ยังมีการสอนที่ครอบคลุมทั้งด้านการบัญชี การเงิน และการบัญชีบริหาร ที่มีความเชื่อมโยงกับกลยุทธ์ และการดำเนินกิจการทางธุรกิจ เพื่อนำมาวางแผน และตัดสินใจเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจ ซึ่งสามารถทำงานได้ในหลายสาขาอาชีพ เช่น นักวิเคราะห์บัญชี ผู้เชี่ยวชาญด้านทรัพย์สินเพื่อการลงทุน ที่ปรึกษาด้านภาษี ผู้ตรวจสอบภายใน และเจ้าหน้าที่บัญชีลูกหนี้ เป็นต้น 

การเงิน (Finance) 

สาขาการเงิน เป็นสาขาที่เน้นการเรียนการสอน วิธีคิดในการบริหารและการตัดสินใจด้านการเงิน เพื่อส่งเสริมการลงทุน และการใช้เงินให้เกิดความงอกเงย ทำให้กิจการมีมูลค่ามากขึ้น นอกจากนั้น ยังสอนในเรื่องการลงทุนต่างๆ การจัดหาเงินทุน การบริหารสภาพคล่อง รวมถึงแนวทางในการบริหารความเสี่ยงทางการเงิน  โดยจะสอนให้รู้จักแนวคิดที่ช่วยจัดการกับความไม่แน่นอนที่เกิดจากตลาดการเงิน ตั้งแต่การหาความเสี่ยงด้านการเงินที่อาจเกิดขึ้นกับธุรกิจ ตลอดจนพัฒนากลยุทธ์ด้านการเงินให้สอดคล้องกับธุรกิจ ซึ่งอาชีพในสายงานนี้มีให้เลือกหลากหลายอาชีพ เช่น

  • เจ้าหน้าที่การเงิน  ทำหน้าที่ในการวิเคราะห์ทางการเงิน วางแผน และคาดการณ์ธุรกิจ พร้อมทั้งจัดการ และดูแลแผนกการเงิน การบัญชี และการจัดการให้มีความถูกต้อง 
  • นักวิเคราะห์ความเสี่ยง ทำหน้าที่ในการวิเคราะห์ ประเมิน และจัดการความเสี่ยงของการผิดชำระหนี้ 
  • นักวิเคราะห์สินเชื่อ ทำหน้าที่ในการวิเคราะห์ และสร้างหลักทรัพย์การลงทุน และอนุมัติเงินกู้ให้กับลูกค้า

นอกจากนี้ ยังมีอาชีพอื่นๆ ที่น่าสนใจ ซึ่งสามารถทำได้ในอนาคต เช่น นักวิเคราะห์การเงิน ผู้จัดการฝ่ายสัญญาเช่าซื้อ-ขาย ผู้จัดการฝ่ายบัญชีและการเงิน ผู้ช่วยรองผู้อำนวยการฝ่ายบัญชีและการเงิน และผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายการเงิน เป็นต้น 

การตลาด (Marketing)

สาขาการตลาดของ BBA TU เป็นสาขาที่มุ่งเน้นการผลิตผู้บริหารการตลาดที่มีความเป็นมืออาชีพ มีความคิดสร้างสรรค์ สามารถวิเคราะห์สถานการณ์ทางการตลาดได้อย่างเหมาะสม และกำหนดกลยุทธ์ในการดำเนินงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ และสามารถอยู่เหนือคู่แข่งขันได้อย่างภาคภูมิ ซึ่งสาขาการตลาดนั้นสามารถทำงานได้หลากหลายอาชีพ เช่น เจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด พนักงานวิจัยทางการตลาด ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด ผู้จัดการฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ และผู้บริหารงานลูกค้า เป็นต้น

เข้าเรียนที่ BBA TU ต้องใช้คะแนนอะไรบ้าง

สมัครเข้าเรียนที่ BBA TU ใช้คะแนนอะไรบ้าง?

หลักจากทำความรู้จักกับคณะ BBA TU กันไปแล้วว่า มีสาขาและสายอาชีพที่น่าสนใจอะไรบ้าง สำหรับน้องๆ ที่กำลังสนใจหลักสูตร BBA TU นอกจากควรจะรู้ถึงคุณสมบัติทั่วไปที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนดไว้แล้ว ยังมีคุณสมบัติเฉพาะที่ผู้สอบควรรู้ไว้ด้วยเช่นกัน เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับตัวเองก่อนเข้าสอบ อย่างคณะ BBA TU  ใช้คะแนนอะไรบ้าง และ BBA TU  มีเกณฑ์คะแนนที่ต้องใช้ยื่นขั้นต่ำเท่าไร จะมีรายละเอียดอะไรบ้าง ไปดูกันเลย! 

คะแนนการทดสอบความรู้

สำหรับหลักสูตร BBA TU นั้นต้องใช้คะแนนการทดสอบความรู้จากข้อสอบ SAT และ GSAT มายื่นประกอบการพิจารณาคัดเลือกเพื่อเข้าศึกษาต่อ โดยสามารถเลือกยื่นคะแนนสอบอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือจะยื่นทั้ง 2  คะแนนเลยก็ได้เช่นกัน 

· SAT 

ข้อสอบ SAT หรือ SAT หรือ Scholastic Aptitude Test เป็นการสอบที่จัดโดยหน่วยงานของประเทศสหรัฐอเมริกาที่ชื่อว่า College Board เป็นข้อสอบที่มีความเป็นมาตรฐานสากล ใช้สำหรับทดสอบความถนัดในวิชาคณิตศาสตร์ (Mathematics) และภาษาอังกฤษ (Reading & Writing) ซึ่งมีคะแนนเต็มพาร์ทละ 800 คะแนน สำหรับคะแนนสอบ SAT ที่ใช้ในการยื่นเพื่อเข้าศึกษาต่อ BBA TU จะต้องได้คะแนนพาร์ท Mathematics ขั้นต่ำ 600 คะแนน หรือคิดเป็น 45% ส่วนคะแนนพาร์ท Reading & Writing จะต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 460 คะแนน หรือคิดเป็น 45% เมื่อรวมกันทั้ง 2 พาร์ทแล้วต้องได้คะแนนสอบ SAT ไม่ต่ำกว่า 1,200 คะแนน และคะแนนสอบจะต้องเป็นคะแนนที่มาจากการสอบในครั้งเดียวกันเท่านั้น

สำหรับการส่งคะแนนให้มหาวิทยาลัยนั้นจะเป็นการส่งแบบออนไลน์ โดยผู้สมัครจะต้องดำเนินการให้ทาง College Board ส่งผลการสอบให้มหาวิทยาลัยโดยตรง และสำหรับน้องๆ ที่กำลังสงสัยว่าคะแนน SAT คิดรวมกันแล้วได้เพียง 90% เท่านั้น แล้วอีก 10% จะได้คะแนนมาจากไหน คำตอบ คือ อีก 10% นั้นจะมาจากการสอบเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ และสอบสัมภาษณ์กับทางคณะโดยตรง

· GSAT

ข้อสอบ GSAT หรือ General Scholastic Aptitude Test  เป็นข้อสอบที่วัดความถนัดทางวิชาการที่เกิดจากการพัฒนาร่วมกันของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์​ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ เพื่อใช้ประกอบการคัดเลือกนักศึกษาเข้าศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี หลักสูตรนานาชาติ ซึ่งมีเกณฑ์คะแนนอยู่ในช่วง 400 – 1,600 คะแนน ซึ่งการศึกษาต่อที่ BBA TU จะต้องใช้คะแนน GSAT ที่มาจากการสอบในรอบเดียวกันและจะต้องมีคะแนนไม่ต่ำกว่า 1,200 คะแนน โดยแบ่งเป็นพาร์ท Mathematics 600 คะแนน คิดเป็นค่าน้ำหนัก 45% และพาร์ท Reading กับ Writing and Language 460 คะแนน คิดเป็นค่าน้ำหนัก 45% รวมทั้ง 2 พาร์ทคิดเป็นค่าน้ำหนัก 90%

โดยผู้สมัครจะต้องทำการสแกนผลคะแนนฉบับจริง แล้วอัปโหลดผ่านระบบรับสมัครออนไลน์ของโครงการ และจะต้องทำการสอบเขียนเรียงความภาษาอังกฤษ และสอบสัมภาษณ์กับทางคณะเพื่อเก็บคะแนนอีก 10%

คะแนนการทดสอบความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ

นอกจากคะแนนการทดสอบความรู้ของ SAT และ GSAT แล้ว คณะ BBA TU ยังใช้คะแนนการทดสอบความสามารถทางด้านภาษาอังกฤษ เพื่อประกอบการคัดเลือกเข้าศึกษาต่อเช่นกัน โดยคะแนนภาษาอังกฤษนั้นมาจากข้อสอบ TOEFL, IELTS หรือ TU-GET โดยผู้สอบสามารถเลือกยื่นคะแนนตัวใดตัวหนึ่งได้ และที่สำคัญคือผลคะแนนจะต้องมีอายุไม่เกิน 2 ปีนับจากวันที่สอบถึงวันที่ยื่นสมัคร 

ผู้สอบจะต้องทำการสแกนผลคะแนนจากฉบับจริง แล้วอัปโหลดผลคะแนนผ่านระบบรับสมัครออนไลน์ของโครงการก่อนการปิดรับสมัคร ซึ่งข้อสอบแต่ละแบบจะมีเกณฑ์คะแนนขั้นต่ำที่กำหนดไว้ ดังนี้ 

· IELTS

ข้อสอบ IELTS หรือ International English Language Testing System เป็นข้อสอบวัดระดับความสามารถทางภาษาอังกฤษที่ครอบคลุมทักษะ 4 ด้าน คือ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ซึ่งจะมีเกณฑ์การคิดคะแนนแบบ Overall โดยมี Band Score 1 ถึง 9 จากทั้ง 4 พาร์ท และสำหรับคณะ BBA TU จะต้องยื่นคะแนน IELTS เพื่อสมัครเข้าศึกษาต่อแบบ Overall โดยคะแนนจะต้องไม่ต่ำกว่า 6.0 ซึ่งในแต่ละพาร์ทจะต้องได้อย่างน้อย 5.5 ขึ้นไป 

· TU-GET

TU-GET หรือ Thammasat University General English Test เป็นข้อสอบวัดความสามารถด้านภาษาอังกฤษที่จัดทำโดยสถาบันภาษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประกอบไปด้วย 3 ส่วน คือ 1. Structure 2. Vocabulary และ 3. Reading โดยมีรูปแบบในการสอบ 2 แบบ คือ การทำข้อสอบในกระดาษ (TU-GET Paper-based Test) และการทำข้อสอบในคอมพิวเตอร์ (TU-GET Computer-based Test) ซึ่งหลักสูตร BBA TU สามารถใช้คะแนน TU-GET ในการสมัครสอบได้ และสามารถเลือกได้ว่าต้องการยื่นคะแนนรูปแบบใด แต่ว่าเกณฑ์คะแนนของทั้ง 2 รูปแบบนั้นมีความแตกต่างกัน คือ ถ้าหากยื่นผลคะแนนแบบ TU-GET Paper-based จะต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 550 คะแนน แต่ถ้าหากยื่นคะแนนแบบ TU-GET Computer-based จะต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 80 คะแนน

· TOEFL

TOEFL หรือ Test Of English as a Foreign Language เป็นข้อสอบวัดความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษที่ครอบคลุม 4 ทักษะ คือ ฟัง พูด อ่าน และเขียน โดยในแต่ละส่วนจะมีคะแนนเต็ม 30 คะแนน รวมทั้งหมด 120 คะแนน ซึ่งหลักสูตร BBA TU มีข้อกำหนดว่าผู้สมัครจะต้องเลือกสอบแบบ TOEFL Internet-based Test (TOEFL iBT) เป็นข้อสอบ TOEFL ตามแบบมาตรฐานของอเมริกัน และจะต้องได้คะแนนขั้นต่ำ 80 คะแนน

เมื่อยื่นคะแนนสอบ BBA TU แล้ว ขั้นตอนต่อไปคืออะไรบ้าง

หากยื่นใบสมัครแล้วถูกเลือก ขั้นตอนต่อไปคืออะไร?

หลังจากยื่นคะแนนสอบ และคณะกรรมการพิจารณาแล้วว่าผ่านเกณฑ์การคัดเลือก หมายความว่าผู้ที่ถูกคัดเลือกนั้นมีสิทธิ์เข้าสอบสัมภาษณ์ต่อ โดยจะพิจารณาจากลำดับผลคะแนนรวมของคะแนนสอบ SAT และ GSAT เป็นสำคัญ

โดยในขั้นตอนนี้จะเป็นการทดสอบทักษะด้านการเขียน และการสัมภาษณ์ในวันเดียวกัน และทั้งสองส่วนจะมีคะแนนขั้นต่ำ 5 คะแนน ซึ่งคะแนนเต็มทั้งหมดนั้นคิดเป็นค่าน้ำหนัก 10% 

การทดสอบทักษะการเขียน

การทดสอบทักษะการเขียน ด้วยการเขียนเรียงความที่ทางคณะจะกำหนดหัวข้อมาให้ และน้องๆ จะต้องเขียนเรียงความเกี่ยวกับหัวข้อที่ตัวเองได้รับ โดยเทคนิคในการทำข้อสอบการเขียนที่สำคัญ คือ น้องๆ จะต้องอ่านให้ดีว่าโจทย์ถามอะไรบ้าง และต้องตอบคำถามให้ครบถ้วน ตรงประเด็น พร้อมกับอธิบายให้มีความชัดเจน เรียบเรียงลำดับเนื้อเรื่องให้อ่านง่าย และมีความน่าสนใจมากที่สุด 

การสอบสัมภาษณ์

หลังจากทดสอบทักษะการเขียนด้วยการเขียนเรียงความไปแล้ว ขั้นตอนต่อไป คือ การสัมภาษณ์ โดยการสัมภาษณ์นั้นจะเริ่มตั้งแต่การแนะนำตัว ถามเรื่องทั่วไป และถามเกี่ยวกับด้านธุรกิจ อย่างเช่น ครอบครัวทำธุรกิจอะไรอยู่หรือไม่ หรือตัวเราเองกำลังสนใจธุรกิจในด้านใดอยู่หรือเปล่า เพื่อเป็นการทดสอบว่าเราสนใจในคณะนี้มากน้อยเพียงใด เป็นต้น 

เชื่อว่าน้องๆ หลายคนนั้นได้คลายข้อสงสัยกันไปบ้างแล้วกับคำถามที่ว่าสอบเข้าคณะ BBA TU ใช้คะแนนอะไรบ้าง นอกจากนั้น การสมัครเข้าคณะ BBA TU นั้น จะต้องมีคะแนนที่ผ่านตามเกณฑ์ที่ทางมหาวิทยาลัยกำหนดไว้ รวมถึงจะต้องมีการทดสอบทักษะการพูด และการเขียน ที่เป็นคะแนนอีก 10% ที่จำเป็นในการสมัครเข้าเรียนหลักสูตร BBA TU อีกด้วย ดังนั้น น้องๆ ควรเตรียมความพร้อมในการสอบวิชาต่างๆ ให้กับตัวเองตั้งแต่เนิ่นๆ และควรฝึกฝนภาษาอังกฤษทุกวัน เพื่อพิชิตคณะในฝัน และสามารถเข้าเรียนในคณะที่ตัวเองตั้งใจไว้ได้สำเร็จ

Update แนวข้อสอบ BMAT ล่าสุดปี 2020! รู้ไว้ก่อนสมัครสอบ GED เข้าคณะไหนได้บ้าง Part4

Date : Mar 2, 2022

You May Like