BLOG

    Home Blog Latest ชอบภาษาอังกฤษเรียนคณะอะไรดีนะ? แล้วเขาเรียนอะไรกันบ้าง? พร้อมเปิดข้อมูลแต่ละคณะเน้นๆ

ชอบภาษาอังกฤษเรียนคณะอะไรดีนะ? แล้วเขาเรียนอะไรกันบ้าง? พร้อมเปิดข้อมูลแต่ละคณะเน้นๆ

ชอบภาษาอังกฤษเรียนคณะอะไรดี

ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่มีความสำคัญทั้งในโลกธุรกิจ และโลกการศึกษาเป็นอย่างมาก ทำให้น้องๆ หลายๆ คนอาจจะสนใจ และตัดสินใจที่จะศึกษา และต่อยอดในด้านนี้ไปเลย แต่สำหรับน้องๆ ที่ยังมีคำถามอยู่ว่า ชอบภาษาอังกฤษควรเรียนคณะอะไรดี? ดังนั้น ในบทความนี้พี่ๆ Interpass จะพาน้องๆ ไปหาคำตอบของคำถามที่ว่าชอบภาษาอังกฤษเรียนอะไรดี โดยจะมีคณะอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!

คณะอักษรศาสตร์

1. คณะอักษรศาสตร์

คณะอักษรศาสตร์เป็นหลักสูตรการสอนที่มุ้งเน้นไปในเรื่องของภาษาอังกฤษ และภาษาต่างๆ โดยที่ไม่ได้เรียนเพียงแค่ภาษา หรือหลักภาษาเท่านั้น แต่ยังได้เรียนรู้ไปถึงที่มาที่ไป วัฒนธรรม พัฒนาการ และประวัติศาสตร์ของภาษานั้นๆ ด้วย ทำให้เป็นคณะที่เหมาะสมกับน้องๆ ที่ชอบภาษาอังกฤษเป็นอย่างมาก

คณะอักษรศาสตร์เรียนอะไรบ้าง?

คณะอักษรศาสตร์จะใช้หลักสูตรการศึกษา 4 ปี และมีเนื้อหาที่เรียนแตกต่างกันไปตามสาขาวิชา และมหาวิทยาลัย โดยจะมีการแบ่งเนื้อหาการเรียนของแต่ละปีได้ ดังนี้

  • ปี 1 จะเน้นไปในการศึกษาวิชาพื้นฐานของคณะ มักจะยังไม่ได้ลงลึกในสาขาวิชาของตัวเองมาก มีวิชาหลายอย่างที่ทำหน้าที่ในการสอนสิ่งพื้นฐานในการเรียนระดับที่สูงขึ้นถัดไป เช่น วิชาเกี่ยวกับการอ่านและเขียนงาน ฝึกฝนทักษะการพูด ฟัง อ่าน และเขียน ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ
  • ปี 2 จะเริ่มเรียนวิชาเฉพาะของสาขา อย่างเช่น วิชาภาษาอังกฤษเพื่อการนำเสนอ สำหรับสาขาภาษาอังกฤษ หรือการเรียนวรรณกรรม สำหรับสาขาวรรณคดี เป็นต้น
  • ปี 3 จะมีการศึกษาเนื้อหาวิชาอย่างลึกซึ้ง เช่น สาขาภาษาอังกฤษ ก็จะเริ่มมีการเรียนภาษาศาสตร์ พัฒนาการของภาษาอังกฤษ รวมไปถึงการศึกษาการเขียนเชิงวิชาการระบบไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ด้วย
  • ปี 4 เป็นปีสุดท้ายของการเรียน ก็จะหันมาเรียนรู้หลักการทำงานวิจัยทางวิชาการ เรียนรู้ประเด็นที่น่าสนใจทางวิชาการร่วมสมัย และการทำวิจัยที่น้องๆ สนใจ และนำเสนอผลงานก่อนจบการศึกษา

ใช้คะแนนสอบอะไรบ้าง?

คะแนนสอบที่ต้องใช้เพื่อยื่นสมัครสอบ สำหรับน้องๆ ที่สนใจอยากเข้าเรียนคณะอักษรศาสตร์ มีดังนี้

  • GPAX 
  • TGAT
  • TPAT 1
  • TPAT 7
คณะศิลปศาสตร์

2. คณะศิลปศาสตร์

คณะศิลปศาสตร์จะมีหลักการสอนที่ผสมผสานระหว่างการศึกษาเกี่ยวกับความรู้ทั่วไป ทักษะเชิงปัญญา และ ศิลปวิทยาการต่างๆ เข้าด้วยกัน ทำให้มีเนื้อหาวิชาที่มีความทันสมัย ใช้ทั้งความรู้ของภาษา จิตวิทยา คณิตศาสตร์ และสาขาวิชาต่างๆ เพื่อให้ได้การเรียนรู้ที่ตอบโจทย์กับโลกปัจจุบัน

คณะศิลปศาสตร์เรียนอะไรบ้าง?

คณะศิลปศาสตร์จะมีหลักสูตรการศึกษา 4 ปี และมีเนื้อหาที่เรียนแตกต่างกันไปตามสาขา และมหาวิทยาลัย โดยจะมีการแบ่งเนื้อหาการเรียนของแต่ละปีได้ ดังนี้

  • ปี 1 จะเน้นไปในการศึกษาวิชาพื้นฐานของคณะ โดยที่อาจจะยังไม่ลงลึกกับเนื้อหาวิชามาก และจะมีวิชาที่ปรับพื้นฐานให้สามารถเรียนต่อในเนื้อหาที่ลึกขึ้นไปได้ อย่างวิชาที่ฝึกฝนทักษะการพูด อ่าน และเขียน เป็นต้น
  • ปี 2 จะเริ่มเรียนวิชาเฉพาะของสาขา อย่างวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการพูดนำเสนอ วิชาภาษาของโลก  หรือ วิชาตำนาน และเทพนิยาย สำหรับสาขาภาษาอังกฤษ
  • ปี 3 จะมีการศึกษาเนื้อหาวิชาอย่างลึกซึ้ง เช่น วิชาการสื่อสารพหุวัฒนธรรม การแปลอังกฤษ-ไทยในงานวิชาการ หรือวิชาการแปลศิลปะและสื่อร่วมสมัย เป็นต้น
  • ปี 4 เป็นปีสุดท้ายของการเรียน จะหันมาเรียนรู้หลักการทำงานวิจัยทางวิชาการ เรียนรู้ประเด็นที่น่าสนใจทางวิชาการร่วมสมัย และการทำวิจัยที่สนใจและนำเสนอผลงาน เป็นต้น

ใช้คะแนนสอบอะไรบ้าง?

คะแนนสอบที่ต้องใช้เพื่อยื่นสมัครสอบ สำหรับน้องๆ ที่สนใจอยากเข้าเรียนคณะศิลปศาสตร์ มีดังนี้

  • GPAX 
  • TGAT 
  • TPAT 7
คณะมนุษยศาสตร์

3. คณะมนุษยศาสตร์

มนุษยศาสตร์เป็นการศึกษาความเป็นมนุษย์ ผ่านการศึกษาภาษาทั้งที่เป็นภาษาปัจจุบันและภาษาในประวัติศาสตร์ ศึกษาวัฒนธรรม วรรณคดี ปรัชญา ทัศนศิลป์ ศิลปะการแสดง รวมไปถึงประวัติศาสตร์ด้วย ซึ่งในบางมหาวิทยาลัย มนุษยศาสตร์อาจจะมีการศึกษาไปถึงด้านมนุษยวิทยาและวัฒนธรรมภูมิภาคท้องถิ่นด้วย

คณะมนุษยศาสตร์เรียนอะไรบ้าง?

คณะมนุษยศาสตร์จะมีหลักสูตรการศึกษา 4 ปี และมีเนื้อหาที่เรียนแตกต่างกันไปตามสาขา และมหาวิทยาลัย โดยจะมีการแบ่งเนื้อหาการเรียนของแต่ละปีได้ ดังนี้

  • ปี 1 จะเน้นไปในการศึกษาวิชาพื้นฐานของคณะ โดยที่อาจจะยังไม่ลงลึกกับเนื้อหาวิชา และมีวิชาที่ปรับพื้นฐานให้สามารถเรียนต่อในเนื้อหาที่ลึกขึ้นไปได้ในภายภาคหน้า  เช่น วิชาที่สอนการค้นคว้าข้อมูล หรือการเขียนงานเบื้องต้น เป็นต้น
  • ปี 2 จะเริ่มเรียนวิชาเฉพาะของสาขา อย่างเช่น วิชาภาษาอังกฤษเพื่อการพูดนำเสนอ หรือภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน สำหรับสาขาภาษาอังกฤษ 
  • ปี 3 จะมีการศึกษาเนื้อหาวิชาอย่างลึกซึ้ง เช่น การศึกษาภาษาศาสตร์ ผลกระทบของภาษาต่อวัฒนธรรม และผลกระทบของวัฒนธรรมต่อภาษา เป็นต้น
  • ปี 4 เป็นปีสุดท้ายของการเรียน จะหันมาเรียนรู้หลักการทำงานวิจัยทางวิชาการ เรียนรู้ประเด็นที่น่าสนใจทางวิชาการร่วมสมัย และการทำวิจัยที่น้องๆ สนใจ และนำเสนอผลงาน

ใช้คะแนนสอบอะไรบ้าง?

คะแนนสอบที่ต้องใช้เพื่อยื่นสมัครสอบ สำหรับน้องๆ ที่สนใจอยากเข้าเรียนคณะมนุษยศาสตร์ มีดังนี้

  • GPAX 
  • TGAT 
คณะครุศาสตร์ หรือศึกษาศาสตร์

4. คณะครุศาสตร์ หรือศึกษาศาสตร์

คณะครุศาสตร์ หรือศึกษาศาสตร์ เป็นคณะที่น้องๆ ที่อยากเป็นครูควรให้ความสนใจ เพราะว่ามีเนื้อหาการเรียนที่ศึกษาการสอนเด็กในวัยต่างๆ การออกแบบการเรียน และวิชาต่างๆ ที่จะนำไปสอนเด็กๆ เหล่านั้นด้วย โดยครุศาสตร์ก็จะมีสาขาที่เน้นการสอนตามระดับชั้น และมีการลงลึกในบางวิชา ซึ่งรวมถึงภาษาอังกฤษด้วย ถือว่าเป็นอีกตัวเลือกที่เหมาะสำหรับน้องๆ ที่ชอบเรียนภาษาอังกฤษแต่ไม่รู้จะเรียนอะไรดี

คณะครุศาสตร์ หรือศึกษาศาสตร์เรียนอะไรบ้าง

คณะครุศาสตร์เดิมจะมีหลักสูตรการศึกษา 5 ปี แต่ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา หลายๆ มหาวิทยาลัยก็เริ่มปรับแผนการสอนให้เหลือ 4 ปี และมีเนื้อหาที่เรียนแตกต่างกันไปตามสาขา และมหาวิทยาลัย โดยจะมีการแบ่งเนื้อหาการเรียนของแต่ละปีได้ ดังนี้

  • ปี 1 จะเน้นไปในการศึกษาวิชาพื้นฐานของคณะ ปูพื้นฐานของวิชาชีพครู และวิชาพื้นฐานของมหาวิทยาลัย และอาจได้มีโอกาสเข้าไปสังเกตการสอนด้วย
  • ปี 2 จะเริ่มเรียนวิชาเฉพาะของคณะ และสาขา อย่างจิตวิทยาด้านการสอน เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาสำหรับครู หรือหลักการสอนภาษาอังกฤษสำหรับปฐมวัย เป็นต้น
  • ปี 3 จะมีการศึกษาเนื้อหาวิชาที่เฉพาะด้านมากขึ้น เช่น หลักการพัฒนาปรับปรุงการสอน การวิจัยการเรียนรู้ และเทคนิคการเรียนการสอน เป็นต้น
  • ปี 4 เป็นปีสุดท้ายของการเรียน จะมีการเตรียมการสอน มีการทดลองบันจุเป็นครูผู้ช่วยในโรงเรียนต่างๆ พร้อมทั้งการฝึกสอนการรายงานผลการศึกษาต่างๆ ด้วย

ใช้คะแนนสอบอะไรบ้าง?

คะแนนสอบที่ต้องใช้เพื่อยื่นสมัครสอบ สำหรับน้องๆ ที่สนใจอยากเข้าเรียนคณะครุศาสตร์ มีดังนี้

  • GPAX 
  • TGAT 
  • TPAT1
  • TPAT5 
คณะธุรกิจการบิน

5. คณะธุรกิจการบิน

คณะธุรกิจการบินเป็นหนึ่งในคณะที่จำเป็นจะต้องมีพื้นฐานด้านภาษาที่ดี จึงจะสามารถสมัครเข้ามาเรียนได้ เพราะทักษะภาษามีความสำคัญทั้งต่อการเรียน และการทำงานในธุรกิจการบินอย่างมาก จึงเป็นคณะที่เหมาะกับน้องๆ ที่ชอบภาษาอังกฤษแต่ไม่รู้จะเรียนคณะอะไรดี

คณะธุรกิจการบินเรียนอะไรบ้าง

คณะธุรกิจการบินจะมีหลักสูตรการศึกษา 4 ปี และมีเนื้อหาที่เรียนแตกต่างกันไปตามสาขา และมหาวิทยาลัย โดยจะมีการแบ่งเนื้อหาการเรียนของแต่ละปีได้ ดังนี้

  • ปี 1 จะเน้นไปในการศึกษาวิชาพื้นฐานของคณะ เรียนวิชาทั่วไปในการศึกษาระดับมหาลัย เช่น การค้นคว้าข้อมูล การอ่าน เขียน และ นำเสนองาน ต่างๆ
  • ปี 2 จะเริ่มเรียนวิชาเฉพาะของคณะและสาขา ปูพื้นฐานในการทำงานในธุรกิจการบิน เช่น ตำแหน่งงานต่างๆ ที่จำเป็นในธุรกิจการบิน หรือ ความสำคัญโดยรวมของธุรกิจการบิน
  • ปี 3 จะมีการศึกษาเนื้อหาวิชาอย่างลึกซึ้ง เช่น อุตสาหกรรมการบิน การขนส่งการบิน รวมไปถึงความเสี่ยงในธุรกิจการบิน และการการสัมมนา
  • ปี 4 เป็นปีสุดท้ายของการเรียน จะมีการฝึกงานกับธุรกิจการบินที่วิทยาลัยติดต่อไว้ให้

ใช้คะแนนสอบอะไรบ้าง?

คะแนนสอบที่ต้องใช้เพื่อยื่นสมัครสอบ สำหรับน้องๆ ที่สนใจอยากเข้าเรียนคณะธุรกิจการบิน มีดังนี้

  • GPAX 
  • TGAT 
คณะการท่องเที่ยว และการโรงแรม

6. คณะการท่องเที่ยว และการโรงแรม

คณะการท่องเที่ยว และการโรงแรมเป็นคณะที่มีแผนการเรียนที่ออกแบบมาเพื่อพัฒนาทักษะวิชาชีพให้ตรงกับงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และการโรงแรมให้มากที่สุด ซึ่งภาษาอังกฤษเองก็เป็นทักษะที่มีบทบาทสำคัญกับสายวิชาชีพนี้มากๆ ทำให้เป็นหนึ่งในคณะที่น่าสนใจสำหรับน้องๆ ที่ชอบภาษาอังกฤษ แต่ยังไม่รู้จะเรียนอะไรดี

คณะการท่องเที่ยว และการโรงแรมเรียนอะไรบ้าง

คณะการท่องเที่ยว และการโรงแรมจะมีหลักสูตรการศึกษา 4 ปี ซึ่งจะมีการเนื้อหาการเรียนแบ่งออกได้ 2 สาย ได้แก่ สายศิลปศาสตรบัณฑิตที่จะเน้นเรื่องภาษา จิตวิทยา และการเข้าใจมนุษย์ และสายบริหารธุรกิจบัณฑิต ที่เน้นเรื่องการบริหาร วิเคราะห์ วางแผนธุรกิจ และมีเนื้อหาที่เรียนแตกต่างกันไปตามสาขา และมหาวิทยาลัย โดยจะมีการแบ่งเนื้อหาการเรียนของแต่ละปีได้ ดังนี้

  • ปี 1 จะเน้นไปในการศึกษาวิชาพื้นฐานของคณะ เรียนวิชาที่จะทำให้คุ้นเคยกับบรรยากาศของการท่องเที่ยว และการโรงแรม เช่น พื้นฐานอุตสาหกรรมบริการ กฎหมายเบื้องต้น และมารยาททางสังคม เป็นต้น
  • ปี 2 จะเริ่มเรียนวิชาเฉพาะของคณะ และสาขา รวมไปถึงองค์ประกอบของธุรกิจอุตสาหกรรมบริการ เช่น ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสถิติสำหรับคำนวณราคาห้องพัก ความรู้บัญชีเพื่อจัดการการเงินในโรงแรม และกฎหมายธุรกิจบริการเพื่อให้การบริหารมีความถูกต้อง เป็นต้น
  • ปี 3 จะมีการศึกษาเนื้อหาวิชาอย่างลึกซึ้ง เช่น การบริหารจัดการส่วนต่างๆ ของโรงแรม การวางแผนการดำเนินงาน การควบคุมอาหารและเครื่องดื่ม การปฏิบัติงานในส่วนหน้า และการจัดการแผนกแม่บ้าน ซึ่งก็อาจจะมีการฝึกปฏิบัติภาคสนามควบคู่ไปด้วย
  • ปี 4 เป็นปีสุดท้ายของการเรียน และจะมีการเรียนรู้เฉพาะทางมากขึ้น เช่น การพยากรณ์ธุรกิจ การจัดการเชิงกลยุทธ์ และวิธีการวิจัย เป็นต้น

ใช้คะแนนสอบอะไรบ้าง?

คะแนนสอบที่ต้องใช้เพื่อยื่นสมัครสอบ สำหรับน้องๆ ที่สนใจอยากเข้าเรียนคณะการท่องเที่ยว และการโรงแรม มีดังนี้

  • GPAX 
  • TGAT
  • TPAT 1
  • TPAT 7
คณะภาคอินเตอร์

7. คณะภาคอินเตอร์ครบทุกสาย Business Engineering Arts & Language

ถ้าหากว่าชอบเรียนภาษาอังกฤษ และไม่รู้จะเรียนอะไรดี แต่สนใจวิชาที่ไม่เน้นเรียนแค่วิชาที่เกี่ยวกับอังกฤษ ก็สามารถเลือกเรียนในคณะอื่นๆ ที่เป็นภาคอินเตอร์ได้ โดยในหลายๆ คณะที่ปกติแล้วจะไม่ได้เน้นภาษาอังกฤษเองก็จะมีภาคอินเตอร์ที่จะเน้นการเรียน และการสอนเป็นภาษาอังกฤษอยู่แล้ว ที่อาจจะช่วยสร้างข้อได้เปรียบให้กับคนที่ชอบอังกฤษอยู่ก่อนแล้วในการเรียน หรือนักเรียนโรงเรียนอินเตอร์ ที่นอกจากจะได้เรียนเนื้อหาวิชาแล้ว แผนการเรียนภาคอินเตอร์ยังมีการสอนที่เอื้อให้กับการทำงานในระดับนานาชาติ ต่อๆ ไปด้วย โดยคณะที่มีภาคอินเตอร์ก็มีหลากหลาย เช่น

  • คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี (BBA) เป็นหลักสูตรบริหารธุรกิจนานาชาติ ที่จะมีการเรียนเรื่อง การบัญชี การเงิน การบริหารธุรกิจ การทำธุรกิจ และการแข่งขันกันในเชิงธุรกิจต่างๆ
  • คณะวิศวกรรมศาสตร์ (ISE, TEP-TEPE, SIIT, SIIE) ที่จะมีหลักสูตรสาขาบางอย่างที่จะได้เปรียบในการเรียนอินเตอร์อย่างมาก เพราะอุตสาหกรรมเหล่านั้นมักเจริญในต่างประเทศมากกว่าในไทยมาก เช่น วิศวกรรมศาสตร์ยานยนต์ หรือ Robotics & AI ที่เป็นเรื่องใหม่และน่าสนใจมากๆ ในยุคนี้ โดยเนื้อหาการเรียนก็จะมีวิชาคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และวิชาทั่วๆ ไปตามหลักสูตรของแต่ละสาขา
  • คณะเศรษฐศาสตร์ (EBA, BE) ที่จะมีการเรียนทฤษฎีคณิตศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ สถิติ การเงินการบัญชี และการประยุกต์ เพื่อนำเอาความรู้และเทคนิคเกี่ยวกับด้านการเงินต่างๆ ที่เมื่อประยุกต์กับทักษะภาษาอังกฤษแล้วจะยิ่งสร้างความรู้ที่เท่าทันโลกได้มากขึ้นไปอีก

อีกสิ่งหนึ่งสำหรับน้องๆ ของการเรียนภาคอินเตอร์ที่น่าสนใจมากๆ กว่าการเข้าเรียนภาคไทยแบบปกติ คือการยื่นคะแนนสอบเข้าในแต่ละคณะ แต่ละสาย เลือกใช้คะแนนสากล Standardized Test อย่างเช่น IELTS SAT ACT GED เป็นต้น ที่เป็นข้อสอบภาษาอังกฤษ 100% ถูกใจคนชอบภาษาอย่างแน่นอนอยู่แล้ว การเตรียมตัวตลอด 3 ปี เกิดมีการเปลี่ยนใจขึ้นมา กลุ่มคะแนนก็ยังคงสามารถปรับใช้ได้ในหลายๆ คณะ สิ่งสุดท้ายก็คือ น้องๆ สามารถสอบและเตรียมคะแนนได้ตั้งแต่  ม.4 หรือ ม.5 เพราะทุกคะแนนสากลสามารถใช้ได้ภายในระยะเวลา 2 ปี โดยบางคณะก็เปิดรับวุฒิเทียบ GED ใครคะแนนพร้อมตั้งแต่ ม.5 คือลองยื่นได้เลย ไม่ต้องรอใคร

ชอบภาษาอังกฤษ เลือกเรียนได้มากกว่า

ชอบภาษาอังกฤษ เลือกเรียนได้มากกว่า

การมีทักษะภาษาอังกฤษนั้นสร้างประโยชน์ในการเรียนต่อเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแค่จะมีโอกาสในการศึกษาที่มีมากกว่า อย่างเช่น แผนภาคอินเตอร์ที่หากไม่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษ ก็จะเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ที่จะสอบเข้า หรือเรียนผ่านไปได้ และยังรวมไปถึงโอกาสในการพัฒนาตัวเองที่มากขึ้นไปด้วย เนื่องจากเนื้อหาการเรียน และการสอนหลายๆ อย่างที่มีคุณภาพนั้นยังคงไม่ถูกแปลโดยสมบูรณ์ ทำให้คนที่มีพื้นภาษาอังกฤษที่ดีจะสามารถเข้าถึงบทเรียนเหล่านี้ได้ง่ายกว่า 

สุดท้ายแล้วภาษาอังกฤษยังสร้างข้อได้เปรียบในการทำงานให้ด้วย ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับน้องๆ ในฐานะลูกจ้างที่น่าสนใจ ยังช่วยเปิดโอกาสที่จะได้ลองไปทำงานร่วมกับองค์กรระดับนานาชาติต่างๆ ได้อีกด้วย

หลังจากอ่านบทความนี้จบแล้ว น้องๆ หลายคนอาจจะได้คำตอบแล้วว่า ชอบเรียนภาษาอังกฤษควรเรียนคณะอะไรดี? โดยแต่ละคณะนั้นก็จะมีวิชาเรียน และคะแนนที่ต้องใช้สอบเข้าที่แตกต่างกัน ดังนั้น น้องๆ จึงควรศึกษาข้อมูลต่างๆ ให้ละเอียด และที่สำคัญที่สุด คือ ควรเลือกเรียนคณะที่ตอบโจทย์ความชอบ หรือความถนัดของตัวเองมากที่สุด เพื่อที่จะได้เรียนอย่างสนุก และไม่หมดไฟง่ายๆ อีกด้วย

IELTS: 5 เรื่องที่ต้องรู้ก่อนไปสอบ IELTS Writing ส่องคะแนนขั้นต่ำ SAT เตรียมพร้อมก่อนเข้า BBA CU ที่ Interpass

Date : Dec 9, 2022

You May Like