ภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่มีความสำคัญทั้งในโลกธุรกิจ และโลกการศึกษาเป็นอย่างมาก ทำให้น้องๆ หลายๆ คนอาจจะสนใจ และตัดสินใจที่จะศึกษา และต่อยอดในด้านนี้ไปเลย แต่สำหรับน้องๆ ที่ยังมีคำถามอยู่ว่า ชอบภาษาอังกฤษควรเรียนคณะอะไรดี? ดังนั้น ในบทความนี้พี่ๆ Interpass จะพาน้องๆ ไปหาคำตอบของคำถามที่ว่าชอบภาษาอังกฤษเรียนอะไรดี โดยจะมีคณะอะไรบ้าง ไปดูกันเลย!
1. คณะอักษรศาสตร์
คณะอักษรศาสตร์เป็นหลักสูตรการสอนที่มุ้งเน้นไปในเรื่องของภาษาอังกฤษ และภาษาต่างๆ โดยที่ไม่ได้เรียนเพียงแค่ภาษา หรือหลักภาษาเท่านั้น แต่ยังได้เรียนรู้ไปถึงที่มาที่ไป วัฒนธรรม พัฒนาการ และประวัติศาสตร์ของภาษานั้นๆ ด้วย ทำให้เป็นคณะที่เหมาะสมกับน้องๆ ที่ชอบภาษาอังกฤษเป็นอย่างมาก
คณะอักษรศาสตร์เรียนอะไรบ้าง?
คณะอักษรศาสตร์จะใช้หลักสูตรการศึกษา 4 ปี และมีเนื้อหาที่เรียนแตกต่างกันไปตามสาขาวิชา และมหาวิทยาลัย โดยจะมีการแบ่งเนื้อหาการเรียนของแต่ละปีได้ ดังนี้
- ปี 1 จะเน้นไปในการศึกษาวิชาพื้นฐานของคณะ มักจะยังไม่ได้ลงลึกในสาขาวิชาของตัวเองมาก มีวิชาหลายอย่างที่ทำหน้าที่ในการสอนสิ่งพื้นฐานในการเรียนระดับที่สูงขึ้นถัดไป เช่น วิชาเกี่ยวกับการอ่านและเขียนงาน ฝึกฝนทักษะการพูด ฟัง อ่าน และเขียน ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ
- ปี 2 จะเริ่มเรียนวิชาเฉพาะของสาขา อย่างเช่น วิชาภาษาอังกฤษเพื่อการนำเสนอ สำหรับสาขาภาษาอังกฤษ หรือการเรียนวรรณกรรม สำหรับสาขาวรรณคดี เป็นต้น
- ปี 3 จะมีการศึกษาเนื้อหาวิชาอย่างลึกซึ้ง เช่น สาขาภาษาอังกฤษ ก็จะเริ่มมีการเรียนภาษาศาสตร์ พัฒนาการของภาษาอังกฤษ รวมไปถึงการศึกษาการเขียนเชิงวิชาการระบบไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ ด้วย
- ปี 4 เป็นปีสุดท้ายของการเรียน ก็จะหันมาเรียนรู้หลักการทำงานวิจัยทางวิชาการ เรียนรู้ประเด็นที่น่าสนใจทางวิชาการร่วมสมัย และการทำวิจัยที่น้องๆ สนใจ และนำเสนอผลงานก่อนจบการศึกษา
ใช้คะแนนสอบอะไรบ้าง?
คะแนนสอบที่ต้องใช้เพื่อยื่นสมัครสอบ สำหรับน้องๆ ที่สนใจอยากเข้าเรียนคณะอักษรศาสตร์ มีดังนี้
- GPAX
- TGAT
- TPAT 1
- TPAT 7
2. คณะศิลปศาสตร์
คณะศิลปศาสตร์จะมีหลักการสอนที่ผสมผสานระหว่างการศึกษาเกี่ยวกับความรู้ทั่วไป ทักษะเชิงปัญญา และ ศิลปวิทยาการต่างๆ เข้าด้วยกัน ทำให้มีเนื้อหาวิชาที่มีความทันสมัย ใช้ทั้งความรู้ของภาษา จิตวิทยา คณิตศาสตร์ และสาขาวิชาต่างๆ เพื่อให้ได้การเรียนรู้ที่ตอบโจทย์กับโลกปัจจุบัน
คณะศิลปศาสตร์เรียนอะไรบ้าง?
คณะศิลปศาสตร์จะมีหลักสูตรการศึกษา 4 ปี และมีเนื้อหาที่เรียนแตกต่างกันไปตามสาขา และมหาวิทยาลัย โดยจะมีการแบ่งเนื้อหาการเรียนของแต่ละปีได้ ดังนี้
- ปี 1 จะเน้นไปในการศึกษาวิชาพื้นฐานของคณะ โดยที่อาจจะยังไม่ลงลึกกับเนื้อหาวิชามาก และจะมีวิชาที่ปรับพื้นฐานให้สามารถเรียนต่อในเนื้อหาที่ลึกขึ้นไปได้ อย่างวิชาที่ฝึกฝนทักษะการพูด อ่าน และเขียน เป็นต้น
- ปี 2 จะเริ่มเรียนวิชาเฉพาะของสาขา อย่างวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการพูดนำเสนอ วิชาภาษาของโลก หรือ วิชาตำนาน และเทพนิยาย สำหรับสาขาภาษาอังกฤษ
- ปี 3 จะมีการศึกษาเนื้อหาวิชาอย่างลึกซึ้ง เช่น วิชาการสื่อสารพหุวัฒนธรรม การแปลอังกฤษ-ไทยในงานวิชาการ หรือวิชาการแปลศิลปะและสื่อร่วมสมัย เป็นต้น
- ปี 4 เป็นปีสุดท้ายของการเรียน จะหันมาเรียนรู้หลักการทำงานวิจัยทางวิชาการ เรียนรู้ประเด็นที่น่าสนใจทางวิชาการร่วมสมัย และการทำวิจัยที่สนใจและนำเสนอผลงาน เป็นต้น
ใช้คะแนนสอบอะไรบ้าง?
คะแนนสอบที่ต้องใช้เพื่อยื่นสมัครสอบ สำหรับน้องๆ ที่สนใจอยากเข้าเรียนคณะศิลปศาสตร์ มีดังนี้
- GPAX
- TGAT
- TPAT 7
3. คณะมนุษยศาสตร์
มนุษยศาสตร์เป็นการศึกษาความเป็นมนุษย์ ผ่านการศึกษาภาษาทั้งที่เป็นภาษาปัจจุบันและภาษาในประวัติศาสตร์ ศึกษาวัฒนธรรม วรรณคดี ปรัชญา ทัศนศิลป์ ศิลปะการแสดง รวมไปถึงประวัติศาสตร์ด้วย ซึ่งในบางมหาวิทยาลัย มนุษยศาสตร์อาจจะมีการศึกษาไปถึงด้านมนุษยวิทยาและวัฒนธรรมภูมิภาคท้องถิ่นด้วย
คณะมนุษยศาสตร์เรียนอะไรบ้าง?
คณะมนุษยศาสตร์จะมีหลักสูตรการศึกษา 4 ปี และมีเนื้อหาที่เรียนแตกต่างกันไปตามสาขา และมหาวิทยาลัย โดยจะมีการแบ่งเนื้อหาการเรียนของแต่ละปีได้ ดังนี้
- ปี 1 จะเน้นไปในการศึกษาวิชาพื้นฐานของคณะ โดยที่อาจจะยังไม่ลงลึกกับเนื้อหาวิชา และมีวิชาที่ปรับพื้นฐานให้สามารถเรียนต่อในเนื้อหาที่ลึกขึ้นไปได้ในภายภาคหน้า เช่น วิชาที่สอนการค้นคว้าข้อมูล หรือการเขียนงานเบื้องต้น เป็นต้น
- ปี 2 จะเริ่มเรียนวิชาเฉพาะของสาขา อย่างเช่น วิชาภาษาอังกฤษเพื่อการพูดนำเสนอ หรือภาษาอังกฤษเพื่อการสื่อสารในชีวิตประจำวัน สำหรับสาขาภาษาอังกฤษ
- ปี 3 จะมีการศึกษาเนื้อหาวิชาอย่างลึกซึ้ง เช่น การศึกษาภาษาศาสตร์ ผลกระทบของภาษาต่อวัฒนธรรม และผลกระทบของวัฒนธรรมต่อภาษา เป็นต้น
- ปี 4 เป็นปีสุดท้ายของการเรียน จะหันมาเรียนรู้หลักการทำงานวิจัยทางวิชาการ เรียนรู้ประเด็นที่น่าสนใจทางวิชาการร่วมสมัย และการทำวิจัยที่น้องๆ สนใจ และนำเสนอผลงาน
ใช้คะแนนสอบอะไรบ้าง?
คะแนนสอบที่ต้องใช้เพื่อยื่นสมัครสอบ สำหรับน้องๆ ที่สนใจอยากเข้าเรียนคณะมนุษยศาสตร์ มีดังนี้
- GPAX
- TGAT
4. คณะครุศาสตร์ หรือศึกษาศาสตร์
คณะครุศาสตร์ หรือศึกษาศาสตร์ เป็นคณะที่น้องๆ ที่อยากเป็นครูควรให้ความสนใจ เพราะว่ามีเนื้อหาการเรียนที่ศึกษาการสอนเด็กในวัยต่างๆ การออกแบบการเรียน และวิชาต่างๆ ที่จะนำไปสอนเด็กๆ เหล่านั้นด้วย โดยครุศาสตร์ก็จะมีสาขาที่เน้นการสอนตามระดับชั้น และมีการลงลึกในบางวิชา ซึ่งรวมถึงภาษาอังกฤษด้วย ถือว่าเป็นอีกตัวเลือกที่เหมาะสำหรับน้องๆ ที่ชอบเรียนภาษาอังกฤษแต่ไม่รู้จะเรียนอะไรดี
คณะครุศาสตร์ หรือศึกษาศาสตร์เรียนอะไรบ้าง
คณะครุศาสตร์เดิมจะมีหลักสูตรการศึกษา 5 ปี แต่ตั้งแต่ปี 2562 เป็นต้นมา หลายๆ มหาวิทยาลัยก็เริ่มปรับแผนการสอนให้เหลือ 4 ปี และมีเนื้อหาที่เรียนแตกต่างกันไปตามสาขา และมหาวิทยาลัย โดยจะมีการแบ่งเนื้อหาการเรียนของแต่ละปีได้ ดังนี้
- ปี 1 จะเน้นไปในการศึกษาวิชาพื้นฐานของคณะ ปูพื้นฐานของวิชาชีพครู และวิชาพื้นฐานของมหาวิทยาลัย และอาจได้มีโอกาสเข้าไปสังเกตการสอนด้วย
- ปี 2 จะเริ่มเรียนวิชาเฉพาะของคณะ และสาขา อย่างจิตวิทยาด้านการสอน เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาสำหรับครู หรือหลักการสอนภาษาอังกฤษสำหรับปฐมวัย เป็นต้น
- ปี 3 จะมีการศึกษาเนื้อหาวิชาที่เฉพาะด้านมากขึ้น เช่น หลักการพัฒนาปรับปรุงการสอน การวิจัยการเรียนรู้ และเทคนิคการเรียนการสอน เป็นต้น
- ปี 4 เป็นปีสุดท้ายของการเรียน จะมีการเตรียมการสอน มีการทดลองบันจุเป็นครูผู้ช่วยในโรงเรียนต่างๆ พร้อมทั้งการฝึกสอนการรายงานผลการศึกษาต่างๆ ด้วย
ใช้คะแนนสอบอะไรบ้าง?
คะแนนสอบที่ต้องใช้เพื่อยื่นสมัครสอบ สำหรับน้องๆ ที่สนใจอยากเข้าเรียนคณะครุศาสตร์ มีดังนี้
- GPAX
- TGAT
- TPAT1
- TPAT5
5. คณะธุรกิจการบิน
คณะธุรกิจการบินเป็นหนึ่งในคณะที่จำเป็นจะต้องมีพื้นฐานด้านภาษาที่ดี จึงจะสามารถสมัครเข้ามาเรียนได้ เพราะทักษะภาษามีความสำคัญทั้งต่อการเรียน และการทำงานในธุรกิจการบินอย่างมาก จึงเป็นคณะที่เหมาะกับน้องๆ ที่ชอบภาษาอังกฤษแต่ไม่รู้จะเรียนคณะอะไรดี
คณะธุรกิจการบินเรียนอะไรบ้าง
คณะธุรกิจการบินจะมีหลักสูตรการศึกษา 4 ปี และมีเนื้อหาที่เรียนแตกต่างกันไปตามสาขา และมหาวิทยาลัย โดยจะมีการแบ่งเนื้อหาการเรียนของแต่ละปีได้ ดังนี้
- ปี 1 จะเน้นไปในการศึกษาวิชาพื้นฐานของคณะ เรียนวิชาทั่วไปในการศึกษาระดับมหาลัย เช่น การค้นคว้าข้อมูล การอ่าน เขียน และ นำเสนองาน ต่างๆ
- ปี 2 จะเริ่มเรียนวิชาเฉพาะของคณะและสาขา ปูพื้นฐานในการทำงานในธุรกิจการบิน เช่น ตำแหน่งงานต่างๆ ที่จำเป็นในธุรกิจการบิน หรือ ความสำคัญโดยรวมของธุรกิจการบิน
- ปี 3 จะมีการศึกษาเนื้อหาวิชาอย่างลึกซึ้ง เช่น อุตสาหกรรมการบิน การขนส่งการบิน รวมไปถึงความเสี่ยงในธุรกิจการบิน และการการสัมมนา
- ปี 4 เป็นปีสุดท้ายของการเรียน จะมีการฝึกงานกับธุรกิจการบินที่วิทยาลัยติดต่อไว้ให้
ใช้คะแนนสอบอะไรบ้าง?
คะแนนสอบที่ต้องใช้เพื่อยื่นสมัครสอบ สำหรับน้องๆ ที่สนใจอยากเข้าเรียนคณะธุรกิจการบิน มีดังนี้
- GPAX
- TGAT
6. คณะการท่องเที่ยว และการโรงแรม
คณะการท่องเที่ยว และการโรงแรมเป็นคณะที่มีแผนการเรียนที่ออกแบบมาเพื่อพัฒนาทักษะวิชาชีพให้ตรงกับงานในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และการโรงแรมให้มากที่สุด ซึ่งภาษาอังกฤษเองก็เป็นทักษะที่มีบทบาทสำคัญกับสายวิชาชีพนี้มากๆ ทำให้เป็นหนึ่งในคณะที่น่าสนใจสำหรับน้องๆ ที่ชอบภาษาอังกฤษ แต่ยังไม่รู้จะเรียนอะไรดี
คณะการท่องเที่ยว และการโรงแรมเรียนอะไรบ้าง
คณะการท่องเที่ยว และการโรงแรมจะมีหลักสูตรการศึกษา 4 ปี ซึ่งจะมีการเนื้อหาการเรียนแบ่งออกได้ 2 สาย ได้แก่ สายศิลปศาสตรบัณฑิตที่จะเน้นเรื่องภาษา จิตวิทยา และการเข้าใจมนุษย์ และสายบริหารธุรกิจบัณฑิต ที่เน้นเรื่องการบริหาร วิเคราะห์ วางแผนธุรกิจ และมีเนื้อหาที่เรียนแตกต่างกันไปตามสาขา และมหาวิทยาลัย โดยจะมีการแบ่งเนื้อหาการเรียนของแต่ละปีได้ ดังนี้
- ปี 1 จะเน้นไปในการศึกษาวิชาพื้นฐานของคณะ เรียนวิชาที่จะทำให้คุ้นเคยกับบรรยากาศของการท่องเที่ยว และการโรงแรม เช่น พื้นฐานอุตสาหกรรมบริการ กฎหมายเบื้องต้น และมารยาททางสังคม เป็นต้น
- ปี 2 จะเริ่มเรียนวิชาเฉพาะของคณะ และสาขา รวมไปถึงองค์ประกอบของธุรกิจอุตสาหกรรมบริการ เช่น ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับสถิติสำหรับคำนวณราคาห้องพัก ความรู้บัญชีเพื่อจัดการการเงินในโรงแรม และกฎหมายธุรกิจบริการเพื่อให้การบริหารมีความถูกต้อง เป็นต้น
- ปี 3 จะมีการศึกษาเนื้อหาวิชาอย่างลึกซึ้ง เช่น การบริหารจัดการส่วนต่างๆ ของโรงแรม การวางแผนการดำเนินงาน การควบคุมอาหารและเครื่องดื่ม การปฏิบัติงานในส่วนหน้า และการจัดการแผนกแม่บ้าน ซึ่งก็อาจจะมีการฝึกปฏิบัติภาคสนามควบคู่ไปด้วย
- ปี 4 เป็นปีสุดท้ายของการเรียน และจะมีการเรียนรู้เฉพาะทางมากขึ้น เช่น การพยากรณ์ธุรกิจ การจัดการเชิงกลยุทธ์ และวิธีการวิจัย เป็นต้น
ใช้คะแนนสอบอะไรบ้าง?
คะแนนสอบที่ต้องใช้เพื่อยื่นสมัครสอบ สำหรับน้องๆ ที่สนใจอยากเข้าเรียนคณะการท่องเที่ยว และการโรงแรม มีดังนี้
- GPAX
- TGAT
- TPAT 1
- TPAT 7
7. คณะภาคอินเตอร์ครบทุกสาย Business Engineering Arts & Language
ถ้าหากว่าชอบเรียนภาษาอังกฤษ และไม่รู้จะเรียนอะไรดี แต่สนใจวิชาที่ไม่เน้นเรียนแค่วิชาที่เกี่ยวกับอังกฤษ ก็สามารถเลือกเรียนในคณะอื่นๆ ที่เป็นภาคอินเตอร์ได้ โดยในหลายๆ คณะที่ปกติแล้วจะไม่ได้เน้นภาษาอังกฤษเองก็จะมีภาคอินเตอร์ที่จะเน้นการเรียน และการสอนเป็นภาษาอังกฤษอยู่แล้ว ที่อาจจะช่วยสร้างข้อได้เปรียบให้กับคนที่ชอบอังกฤษอยู่ก่อนแล้วในการเรียน หรือนักเรียนโรงเรียนอินเตอร์ ที่นอกจากจะได้เรียนเนื้อหาวิชาแล้ว แผนการเรียนภาคอินเตอร์ยังมีการสอนที่เอื้อให้กับการทำงานในระดับนานาชาติ ต่อๆ ไปด้วย โดยคณะที่มีภาคอินเตอร์ก็มีหลากหลาย เช่น
- คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี (BBA) เป็นหลักสูตรบริหารธุรกิจนานาชาติ ที่จะมีการเรียนเรื่อง การบัญชี การเงิน การบริหารธุรกิจ การทำธุรกิจ และการแข่งขันกันในเชิงธุรกิจต่างๆ
- คณะวิศวกรรมศาสตร์ (ISE, TEP-TEPE, SIIT, SIIE) ที่จะมีหลักสูตรสาขาบางอย่างที่จะได้เปรียบในการเรียนอินเตอร์อย่างมาก เพราะอุตสาหกรรมเหล่านั้นมักเจริญในต่างประเทศมากกว่าในไทยมาก เช่น วิศวกรรมศาสตร์ยานยนต์ หรือ Robotics & AI ที่เป็นเรื่องใหม่และน่าสนใจมากๆ ในยุคนี้ โดยเนื้อหาการเรียนก็จะมีวิชาคณิตศาสตร์ ฟิสิกส์ และวิชาทั่วๆ ไปตามหลักสูตรของแต่ละสาขา
- คณะเศรษฐศาสตร์ (EBA, BE) ที่จะมีการเรียนทฤษฎีคณิตศาสตร์ด้านเศรษฐกิจ สถิติ การเงินการบัญชี และการประยุกต์ เพื่อนำเอาความรู้และเทคนิคเกี่ยวกับด้านการเงินต่างๆ ที่เมื่อประยุกต์กับทักษะภาษาอังกฤษแล้วจะยิ่งสร้างความรู้ที่เท่าทันโลกได้มากขึ้นไปอีก
อีกสิ่งหนึ่งสำหรับน้องๆ ของการเรียนภาคอินเตอร์ที่น่าสนใจมากๆ กว่าการเข้าเรียนภาคไทยแบบปกติ คือการยื่นคะแนนสอบเข้าในแต่ละคณะ แต่ละสาย เลือกใช้คะแนนสากล Standardized Test อย่างเช่น IELTS SAT ACT GED เป็นต้น ที่เป็นข้อสอบภาษาอังกฤษ 100% ถูกใจคนชอบภาษาอย่างแน่นอนอยู่แล้ว การเตรียมตัวตลอด 3 ปี เกิดมีการเปลี่ยนใจขึ้นมา กลุ่มคะแนนก็ยังคงสามารถปรับใช้ได้ในหลายๆ คณะ สิ่งสุดท้ายก็คือ น้องๆ สามารถสอบและเตรียมคะแนนได้ตั้งแต่ ม.4 หรือ ม.5 เพราะทุกคะแนนสากลสามารถใช้ได้ภายในระยะเวลา 2 ปี โดยบางคณะก็เปิดรับวุฒิเทียบ GED ใครคะแนนพร้อมตั้งแต่ ม.5 คือลองยื่นได้เลย ไม่ต้องรอใคร
ชอบภาษาอังกฤษ เลือกเรียนได้มากกว่า
การมีทักษะภาษาอังกฤษนั้นสร้างประโยชน์ในการเรียนต่อเป็นอย่างมาก ไม่เพียงแค่จะมีโอกาสในการศึกษาที่มีมากกว่า อย่างเช่น แผนภาคอินเตอร์ที่หากไม่มีพื้นฐานภาษาอังกฤษ ก็จะเป็นเรื่องที่ยากมากๆ ที่จะสอบเข้า หรือเรียนผ่านไปได้ และยังรวมไปถึงโอกาสในการพัฒนาตัวเองที่มากขึ้นไปด้วย เนื่องจากเนื้อหาการเรียน และการสอนหลายๆ อย่างที่มีคุณภาพนั้นยังคงไม่ถูกแปลโดยสมบูรณ์ ทำให้คนที่มีพื้นภาษาอังกฤษที่ดีจะสามารถเข้าถึงบทเรียนเหล่านี้ได้ง่ายกว่า
สุดท้ายแล้วภาษาอังกฤษยังสร้างข้อได้เปรียบในการทำงานให้ด้วย ซึ่งนอกจากจะช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับน้องๆ ในฐานะลูกจ้างที่น่าสนใจ ยังช่วยเปิดโอกาสที่จะได้ลองไปทำงานร่วมกับองค์กรระดับนานาชาติต่างๆ ได้อีกด้วย
หลังจากอ่านบทความนี้จบแล้ว น้องๆ หลายคนอาจจะได้คำตอบแล้วว่า ชอบเรียนภาษาอังกฤษควรเรียนคณะอะไรดี? โดยแต่ละคณะนั้นก็จะมีวิชาเรียน และคะแนนที่ต้องใช้สอบเข้าที่แตกต่างกัน ดังนั้น น้องๆ จึงควรศึกษาข้อมูลต่างๆ ให้ละเอียด และที่สำคัญที่สุด คือ ควรเลือกเรียนคณะที่ตอบโจทย์ความชอบ หรือความถนัดของตัวเองมากที่สุด เพื่อที่จะได้เรียนอย่างสนุก และไม่หมดไฟง่ายๆ อีกด้วย