BLOG

    Home Blog IELTS 4 วิธีเตรียมตัวสอบ IELTS Step by Step เริ่มต้นอย่างไรให้ได้คะแนนดี

4 วิธีเตรียมตัวสอบ IELTS Step by Step เริ่มต้นอย่างไรให้ได้คะแนนดี

4 วิธีเตรียมตัวสอบ IELTS ด้วยตัวเอง

ข้อสอบ IELTS (International English Language Testing System) เป็นการทดสอบความสามารถด้านภาษาอังกฤษ สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนต่อ หรือว่าทำงานในประเทศที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสาร เช่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย แคนาดา และนิวซีแลนด์ เป็นต้น ซึ่งมีการทดสอบครบทั้ง 4 ทักษะ ไม่ว่าจะเป็นการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ซึ่งผู้เข้าสอบจำเป็นจะต้องมีการเตรียมตัวในทุกๆ ด้าน 

สำหรับวิธีเตรียมตัวสอบ IELTS ที่ได้รวบรวมมาในบทความนี้จะเป็นการเตรียมความพร้อมในด้านต่างๆ เพื่อให้มีความรู้ความเข้าใจในข้อสอบ และสามารถทำคะแนนออกมาได้อย่างน่าพึงพอใจ สำหรับใครที่กำลังวางแผนจะสอบ แต่ไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นเตรียมตัวอย่างไร บทความนี้ได้รวบรวมข้อมูลการเตรียมตัวที่น่าสนใจมาฝาก ตั้งแต่การเลือกประเภทการสอบ IELTS ที่เหมาะสมกับตัวเอง ไปจนถึงเกณฑ์ในการคิดคะแนน เพื่อให้คุณได้เตรียมพร้อมรับมือ

1. รู้ประเภทของข้อสอบ IELTS ก่อนเลือกสอบ

ก่อนที่จะเริ่มเตรียมตัวสอบ IELTS ด้วยตัวเอง จำเป็นต้องรู้ความแตกต่างของข้อสอบ IELTS ทั้ง 2 ประเภทก่อน ซึ่งประเภทข้อสอบของ IELTS  จะแบ่งออกเป็น แบบ Academic และ General Training  โดยผู้สอบจะต้องดูจุดประสงค์ว่าจะสอบเพื่ออะไร ใช้ในการศึกษาต่อ ทำงาน หรือว่าย้ายไปยังประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารหรือไม่ เพราะทั้งสองแบบมีการสอบที่แตกต่างกันออกไป ดังนี้

IELTS Academic

ข้อสอบ IELTS Academic เป็นข้อสอบที่ใช้สำหรับประเมินความสามารถทางวิชาการของผู้เข้าสอบ สำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาต่อในระดับปริญาตรีหรือระดับปริญาโทจะต้องเลือกสอบแบบ IELTS Academic นอกจากนี้สำหรับผู้ที่ต้องประกอบอาชีพที่ใช้ภาษาอังกฤษในเชิงวิชาการอย่าง แพทย์ พยาบาล ครู หรือทนายความก็จะต้องเลือกสอบแบบ Academic เช่นกัน ซึ่งจะมีการทดสอบทักษะทั้ง 4 ด้านคือ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน

IELTS General Training

สำหรับข้อสอบ IELTS General Training เป็นข้อสอบวัดความรู้ทั่วๆ ไป โดยจะทดสอบความสามารถด้านภาษาอังกฤษในการทำงานและการใช้ชีวิตทั่วไป สำหรับผู้ที่ต้องการเรียนต่อในระดับชั้นมัธยมศึกษา ลงทะเบียนฝึกอบรมวิชาชีพ ย้ายถิ่นฐาน หรือไปทำงานในประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นหลัก ซึ่งวิธีการเตรียมตัวเพื่อสอบ IELTS ทั้งสองแบบอาจจะคล้ายๆ กัน เพราะต้องทดสอบทักษะการฟัง การพูด การอ่าน และการเขียนแต่ความยากง่ายของข้อสอบอาจมีความแตกต่างกัน

เริ่มต้นเตรียมตัวสอบ IELTS ด้วยตัวเอง

2. ฝึกทำข้อสอบ IELTS อย่างสม่ำเสมอ

ไม่ว่าจะเป็นข้อสอบ IELTS แบบ Academic และ General Training ผู้สอบจำเป็นจะต้องเตรียมตัวรับมือให้พร้อม เข้าใจภาษาอังกฤษในทุกๆ ด้าน เพื่อที่จะสามารถทำข้อสอบได้อย่างถูกต้อง ซึ่งการเตรียมตัวสอบ IELTS ด้วยตัวเองที่ดี จำเป็นที่จะต้องฝึกทำข้อสอบในพาร์ทต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้มีความพร้อม หรือหาซื้อหนังสือเตรียมสอบ IELTS เพื่อให้น้องๆ ได้ฝึกทำข้อสอบหลายๆ รูปแบบ

ซึ่งเมื่อถึงเวลาสอบก็จะช่วยให้เข้าใจข้อสอบได้มากขึ้น โดยวิธีเตรียมตัวสอบ IELTS เหล่านี้จะช่วยให้สามารถเอาชนะคะแนนสอบ IELTS ได้ในครั้งเดียว

วิธีเตรียมตัวสอบ IELTS ง่ายๆ ด้วยตัวเอง

การฟัง (IELTS Listening)

ข้อสอบ IELTS พาร์ท Listening เป็นการทดสอบทักษะด้านการฟัง ซึ่งข้อสอบในส่วนนี้จะมีทั้งหมด 30 ข้อ ภายในเวลาประมาณ 30 นาที (และมีเวลาสำหรับการเขียนคำตอบลง answer sheet อีก 10 นาที สำหรับการสอบแบบ paper-based) ผู้เข้าสอบจะต้องใช้ทักษะการฟัง เพื่อจับประเด็นสำคัญ และวิเคราะห์ ทำความเข้าใจความเห็นของผู้พูด การฝึกฟังภาษาอังกฤษเป็นประจำถือเป็นหนึ่งในวิธีการเตรียมตัวสอบ IELTS Listening ที่สำคัญ เพราะจะทำให้คุ้นชินกับสำเนียงและการออกเสียง ซึ่งช่องทางในการฝึกการฟังนั้นมีมากมาย เช่น Podcasts, Youtube และ Audio Books เป็นต้น

• การอ่าน (IELTS Reading)

ข้อสอบ IELTS พาร์ท Reading นั้นมีข้อสอบทั้งหมด 40 ข้อ ที่มาจาก 3 บทความ โดยมีเวลาในการทำข้อสอบทั้งหมด 60 นาที สำหรับข้อสอบในพาร์ทนี้จะเป็นการทดสอบทักษะด้านการอ่าน รวมทั้งทดสอบความรู้เรื่องคำศัพท์ และไวยากรณ์ นอกจากการฝึกทำข้อสอบให้มากๆ แล้ว ควรรู้เทคนิคในการทำข้อสอบ IELTS พาร์ท Reding ไม่ว่าจะเป็นการอ่านบทความเป็นประจำ เข้าใจรูปแบบของคำถาม ฝึกอ่านให้เร็ว และฝึกเดาคำศัพท์ จะสามารถช่วยเพิ่มคะแนนในพาร์ทนี้ได้ โดยเทคนิคที่จะต้องติดตัวไปก็คงจะไม่พ้น “Skim & Scan”

Skim & Scan คืออะไร

สำหรับการอ่านแบบ Skim & Scan พูดง่าย ๆ คือการอ่าน 2 รอบ โดยแบ่งออกเป็นรอบ Skimming หรืออ่านแบบผ่านๆ เพื่อเก็บเค้าโครงเรื่องราวของบทความนั้นๆ ซึ่งเหมาะกับคำถามที่ถามเกี่ยวกับ Main Idea หรือ General Idea ของ Passage ส่วนการอ่านแบบ Scanning เป็นการอ่านโดยละเอียดเพื่อหาคำตอบสำหรับคำถามที่มี Keyword เฉพาะเจาะจง เช่น ชื่อคน ชื่อสถานที่ ตัวเลข โดยที่เราสามารถไป Scan หา Keyword ดังกล่าวใน Passage ได้โดยไม่ต้องอ่านทั้งหมด เจ้าเทคนิค Skim & Scan นั้นเป็นเทคนิคการอ่านที่นอกจากการนำไปใช้ในการสอบแล้ว ยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้อีกด้วย

การเขียน IELTS Writing

• การเขียน (IELTS Writing)

ข้อสอบในพาร์ท Writing จะมีด้วยกัน 2 ส่วน คือ IELTS Writing Task 1 ส่วนนี้จะเป็นการเขียนบรรยายกราฟหรือแผนภูมิรูปแบบต่างๆ และ IELTS Writing Task 2 เป็นการเขียนบรรยายอย่างเป็นทางการ ซึ่งให้เวลาในการทำทั้งหมด 60 นาที การฝึกทำข้อสอบ Writing น้องๆ จะต้องเรียนรู้คำศัพท์ให้มาก ฝึกใช้ไวยากรณ์ให้ถูกต้องตามโครงสร้างของภาษา ที่สำคัญจะต้องเลือกใช้คำเชื่อมให้เหมาะสม เพื่อให้บทความอ่านได้อย่างลื่นไหล สอดคล้องกัน นอกจากนี้ เทคนิคในการทำข้อสอบ Writing อื่นๆ เช่น ตอบให้ตรงคำถาม เลือกใช้คำให้เหมาะสมกับบริบท และการหลีกเลี่ยงการใช้คำซ้ำ ยังช่วยเพิ่มคะแนนให้ดีขึ้นได้อีกด้วย

• การพูด (IELTS Speaking)

ข้อสอบ IELTS พาร์ท Speaking เป็นการทดสอบทักษะด้านการสื่อสาร ที่แบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ พาร์ท General Topics, พาร์ท Individual Long Run / Turn และพาร์ท Two-way Discussion โดยจะใช้เวลาในการทดสอบประมาณ 10-15 นาที ดังนั้น การฝึกพูดบ่อยๆ จะช่วยให้คุ้นชินกับสำเนียง พูดได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่เคอะเขิน หรือพูดติดๆ ขัดๆ ซึ่งเทคนิคการทำข้อสอบ IELTS Speaking ที่ช่วยให้ได้คะแนนดี มีอยู่ด้วยกันหลายวิธี เช่น พูดภาษาอังกฤษทุกวัน ฝึกออกเสียงคำศัพท์ให้ถูกต้อง และเรียบเรียงประโยคในการพูดให้ดี เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้สอบผ่านพาร์ทนี้ได้อย่างง่ายๆ

เตรียมสอบ ielts ด้วยตัวเองด้วยการเรียนรู้รูปแบบของคำถาม

3. เรียนรู้รูปแบบของคำถามที่มักเจอในข้อสอบ

อีกหนึ่งวิธีเตรียมตัวสอบ IELTS ด้วยตัวเอง ที่สำคัญคือน้องๆ จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้รูปแบบของคำถามที่มักจะเจอในแต่ละพาร์ทด้วย ซึ่งในแต่ละพาร์ทมักจะมีรูปแบบคำถามที่แตกต่างกันออกไป การเรียนรู้คำถามที่พบได้บ่อยในข้อสอบ จะช่วยให้จับแนวทางในการทำข้อสอบได้ง่ายขึ้น และเมื่อถึงเวลาทำข้อสอบจริงจะเข้าใจรูปแบบของคำถามมากขึ้นว่าต้องตอบอย่างไร

การฟัง (IELTS Listening)

สำหรับข้อสอบพาร์ท Listening จะมีทั้งหมด 4 ส่วน จากการฟังเรื่องราวทั้งหมด 4 เรื่อง ซึ่งรูปแบบของคำถามที่จะเจอในแต่ละส่วนนั้นจะแตกต่างกันออกไป มีทั้ง Multiple Choice Questions Matching, Plan or Map, Diagram Labelling, Form Completion, Flowchart Completion และ Short Answer เป็นต้น

การอ่าน (IELTS Reading)

วิธีการเตรียมตัวเพื่อสอบ IELTS เริ่มต้นด้วยการทำความเข้าใจรูปแบบคำถามที่มักพบในพาร์ท Reading จะช่วยให้ผู้สอบจับแนวทางในการอ่านได้ง่ายขึ้น และที่สำคัญช่วยให้รู้ว่าคำถามแต่ละแบบควรตอบอย่างไร ซึ่งรูปแบบคำถามที่มักจะพบในพาร์ท Reading มีทั้งหมด 14 แบบ

  • Matching Headings Questions 
  • True False Not Given / Yes No Not Given Questions
  • Matching Paragraph Information Questions 
  • Summary Completion Question
  • Sentence Completion Questions
  • Multiple Choice Questions
  • List Selection
  • Choosing a Title
  • Categorisation Questions
  • Matching Sentence Endings
  • Table Completion
  • Flowchart Completion Questions
  • Diagram Completion Questions
  • Short Answer Questions

การเขียน (IELTS Writing)

ข้อสอบพาร์ท Writing จะมีทั้งหมด 2 ส่วน 

  1. IELTS Writing Task 1 จะเป็นการเขียนบรรยายกราฟต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นกราฟแท่ง หรือกราฟวงกลม ซึ่งจะเป็นการเขียนเพื่อให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงจากสิ่งที่เห็นในกราฟเท่านั้น ในส่วนนี้ผู้สอบห้ามแสดงความคิดเห็นของตนเองลงไปเด็ดขาด  
  2. IELTS Writing Task 2 โจทย์จะให้เขียนบรรยายอย่างเป็นทางการ โดยผู้สอบจะต้องแสดงความคิดเห็น วิพากษ์วิจารณ์ หรือการโต้แย้ง ซึ่งโจทย์หลักๆ ที่มักจะเจอมีด้วยกัน 4 แบบ คือ  Agree / Disagree, Advantage / Disadvantage, Cause / Effect และ Discussion / Give Opinion สำหรับคำถามรูปแบบนี้จะมุ่งเน้นให้ผู้สอบแสดงความคิดเห็นในแง่มุมที่หลากหลาย พร้อมแสดงทัศนคติ และจุดยืนของตนเองที่มีต่อเรื่องนั้นๆ 

การพูด (IELTS Speaking)

ข้อสอบพาร์ท Speaking นั้นมีอยู่ด้วยกันทั้งหมด 3 ส่วน ดังนี้

  1. พาร์ท General Topics สำหรับคำถามในส่วนนี้จะเป็นคำถามเรื่องทั่วๆ ไป เช่น การเรียนหรือการงาน ครอบครัว จังหวัดที่อยู่ บ้านเกิด และงานอดิเรก แม้จะเป็นคำถามที่ง่าย แต่ผู้สอบจะต้องทำให้เกิดความน่าสนใจ ด้วยการใส่ความคิดเห็น เพิ่มรายละเอียด หรือใส่เหตุผลต่างๆ เข้าไป 
  2. พาร์ท Individual Long Run / Turn ในส่วนนี้ผู้สอบจะได้จับการ์ดคำถาม โดยจะมีหัวข้อใหญ่ และหัวข้อย่อยประมาณ 3-4 ข้อ ผู้สอบจะต้องเรียงลำดับการพูดให้มีความสอดคล้องกัน เพื่อทำให้เกิดความน่าสนใจ
  3. พาร์ท Two-way Discussion เป็นการสนทนาตอบโต้กันระหว่างผู้สอบ และ Examiner  โดยจะมีการแสดงความคิดเห็น อภิปราย และมีการตอบคำถาม ในส่วนนี้จะเป็นการคุยกันเพิ่มเติม แม้จะเป็นคำถามที่ต่อเนื่องมาจากพาร์ทที่สอง แต่คำถามจะต่างกันออกไป ที่สำคัญจะเป็นคำถามที่มีความซับซ้อนมากขึ้นด้วย
เตรียมสอบ ielts ด้วยตัวเองโดยการฝึกพูด

4. ทำความเข้าใจเกณฑ์การให้คะแนน

การคิดคะแนนของข้อสอบ IELTS จะคิดแบบ Overall Band Score ซึ่งมีทั้งหมด 9 ระดับ เริ่มตั้งแต่ระดับที่ 1-9 ซึ่งเป็นการคิดคะแนนจากทั้ง 4 พาร์ท คือ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน โดยการนำคะแนนทั้ง 4 พาร์ทมารวมกัน และหารด้วยสี่ ซึ่ง Band Score ของ IELTS จะมีคะแนนเต็ม (Whole band) และครึ่งคะแนน (Half band) เช่น 6 หรือ 6.5 การทำความเข้าใจเกณฑ์การให้คะแนน เป็นหนึ่งในวิธีเตรียมตัวสอบ IELTS ด้วยตัวเอง เพื่อที่จะได้ประเมินอย่างคร่าวๆ ว่าควรเตรียมตัว และหาเคล็ดลับเพิ่มคะแนนในแต่ละพาร์ทอย่างไร เพื่อให้ได้คะแนนที่น่าพึงพอใจ

ข้อสอบ IELTS เป็นข้อสอบวัดความสามารถภาษาอังกฤษที่ครอบคลุมทั้ง 4 ทักษะ ได้แก่ การฟัง การพูด การอ่าน และการเขียน ซึ่งออกแบบมาเพื่อประเมินทักษะของผู้ที่ต้องการใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลักในการสื่อสาร โดยที่การสอบ IELTS จะมี 2 ประเภท คือ IELTS Academic และ IELTS General Training ซึ่งแบ่งตามวัตถุประสงค์ของการนำผลคะแนนไปใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน การศึกษา หรือการย้ายถิ่นฐาน ยิ่งถ้าน้องๆ ตั้งเป้าหมายไว้ว่าอยากได้คะแนน IELTS Overall Brand 7.5  ก็จำเป็นที่จะต้องฝึกฝนการทำข้อสอบเก่าๆ หรือฝึกอ่าน ฝึกพูด ฝึกฟัง ในทุกๆ วัน เพื่อให้เกิดความชำนาญนั้นเอง และทั้งหมดนี้ก็คือเคล็ดลับการเตรียมตัวสอบ IELTS ด้วยตัวเอง ที่จะให้ทำให้น้องๆ พิชิตข้อสอบได้อย่างสบายๆ

และหากน้องๆ คนไหนอยากเตรียมความพร้อม ฟิตความรู้ให้แน่นก่อนไปเจอข้อสอบจริง InterPass ก็มีคอร์สเรียน IELTS เพื่อให้น้องๆ เตรียมตัวให้พร้อมก่อนลงสนามจริงด้วยนะ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยค่ะ

ISE-CU | 5 ภาควิชาวิศวะฯ อินเตอร์ จุฬาฯ เจาะลึกหลักสูตรใหม่ แพทย์จุฬา-อินเตอร์

Date : Apr 11, 2022

You May Like