สวัสดีครับทุกคน มีหลายคนเลยครับที่อยากสอบ IELTS แต่ไม่มั่นใจในพื้นฐานของตัวเอง เลยอยากจะฝึกพื้นฐานไปก่อนแล้วเมื่อพร้อมแล้วค่อยไปสอบจริง วันนี้เราจะมาดูวิธีพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของตัวเองกันครับ สำหรับใครที่เคยศึกษาเกี่ยวกับตัวข้อสอบ IELTS มาบ้างแล้วคงจะพอทราบกันครับว่า ข้อสอบนี้วัด “ทักษะ” ของเราจริงๆที่ใช้เวลาที่เราไปเรียนหรือทำงานในบริบทที่เป็นวิชาการ ดังนั้นข้อสอบจะดูว่าเราสามารถ “ฟัง พูด อ่าน เขียน” ได้จริงๆหรือไม่ แน่นอนครับว่าหากเรามีเวลา เราก็ควรที่จะฝึกแต่ละทักษะเพื่อให้เราใช้ได้จริง ตัวอย่างเช่น อยากทำข้อสอบ listening ได้คะแนนดี เราก็ต้องฝึกฟังจริง อยากอ่านเก่ง ก็ต้องอ่านจริงๆ การใช้เทคนิคก็เป็นเรื่องที่ดีครับ แต่พื้นฐานควรจะดีก่อนครับ เรามาดูการฝึกแต่ละทักษะกันเลยดีกว่าครับ
IELTS Listening (การฟัง)
ถ้าใครอยากฟังเก่ง เทคนิคเดียวที่จำเป็นเลยครับคือฟังเยอะๆ ยิ่งเยอะยิ่งดี มีนักภาษาศาสตร์เคยบอกไว้ว่าการที่เราฟังเยอะ ไม่ว่าเราจะเข้าใจหรือไม่เข้าใจ จะทำให้เราคุ้นชินกับจังหวะและน้ำเสียงของภาษานั้นครับ มีหลายช่องทางเลยครับที่เราสามารถฝึกฟังได้ เช่น ดูภาพยนตร์ ฟัง Podcast หรือฟังอะไรก็ได้ที่เป็นภาษาอังกฤษ ทำตอนไหนก็ได้ครับ เช่น ระหว่างเดินทางไปทำงานหรือไปเรียน ก็อาจจะหาอะไรฟังที่เป็นภาษาอังกฤษไปเรื่อยๆครับ ที่สำคัญคือต้องทำต่อเนื่องนะครับ ลองฟังทุกวัน ทำไปสัก 4 เดือน เห็นผลแน่นอนครับ
IELTS Reading (การอ่าน)
การอ่านนี่นับว่าเป็น Skill หินของหลายคนเลยครับ เพราะเวลาที่อ่านอะไรทางการมากๆ นอกจากจะแปลศัพท์ไม่ออกแล้ว เราอาจจะสับสนกับโครงสร้างประโยคที่ยาวเหลือเกิน ต้องบอกก่อนครับว่าถ้าเราเริ่มต้นจากการอ่านอะไรที่ยากๆเกินความสามารถ ต่อให้ฝึกเท่าไหร่ก็ไม่มีทางพัฒนาครับ สิ่งที่ถูกต้องคือเราต้องเริ่มจากการอ่านอะไรที่ความยากอยู่ในระดับที่พอดีกับเรา เช่น ถ้าเราภาษาอังกฤษอยู่ในระดับกลางๆ เราอาจจะอ่านพวกนิตยสารหรือบทความอะไรสั้นๆที่ไม่ทางการมากก่อน แล้วค่อยไล่ระดับไปเรื่อยๆ และการอ่านที่ดีนั้นเราไม่ควรหาศัพท์ทุกคำที่เราไม่รู้ครับ นอกจากจะเสียเวลาแล้วเรายังจะเกลียดการอ่านอีก ดังนั้นลองอ่านและเดาคำศัพท์จากบริบทครับ จะทำให้เราพัฒนาขึ้นแน่นอน
IELTS Writing (การเขียน)
สำหรับใครที่ไม่มีพื้นฐานการเขียนเลย แน่นอนครับว่าต้องฝึกเขียนจริง แต่อาจจะเริ่มการฝึกเขียนประโยคสั้นๆ แล้วค่อยพัฒนาเป็น paragraph และสุดท้ายคือ essay หรือเรียงความครับ การฝึกเขียนควรจะเริ่มจากการเรียบเรียงประโยคจากสั้นๆให้ยาวขึ้น ตัวอย่างเช่น เราเขียน I love you. อาจจะลองเชื่อมเช่น I love you because you are a good person. พอเขียนประโยคยาวๆได้แล้ว ก็ลองดูโครงสร้างการเขียนที่ถูกต้องครับ เช่น ใน 1 ย่อหน้าควรประกอบด้วยอะไรบ้าง นอกจากฝึกเขียนเองแล้ว ลองวิเคราะห์สิ่งที่มืออาชีพเขียนครับว่าเขาใช้โครงสร้างแบบไหน คำศัพท์แบบไหน การที่เราศึกษาจากตัวอย่างที่ดีจะทำให้เราพัฒนาได้มากขึ้นครับ
IELTS Speaking (การพูด)
หลายคนอาจจะคิดว่าการจะพูดได้ เราต้องไปอยู่ต่างประเทศหรือมีเพื่อนต่างชาติเท่านั้น จริงๆแล้วเราสามารถฝึกพูดได้ด้วยตัวเราเองครับ ง่ายๆเลยสมมุติว่าเราดูซีรี่ย์สักเรื่องหนึ่ง เราอาจจะฟังแล้วลองหยุดบางประโยคเพื่อพูดตาม แบบนี้จะทำให้เราเลียนแบบวิธีการพูดหรือออกเสียงที่ถูกต้องที่ Native speaker พูดกัน มีอีกสิ่งหนึ่งครับเวลาที่เราพูดตามเขา เราจะต้อง Copy หน้าตาของเขาเลยครับ ว่าเขาทำปากอย่างไรตอนที่ออกเสียงแต่ละคำ ท้ายที่สุดถ้าเป็นไปได้ เราควรจะหา Language partner หรือเพื่อนที่เราฝึกด้วยได้ อาจจะเป็นคนไทยก็ได้ครับ แต่ต้องเป็นคนที่เราจะพอจะฝึกภาษาด้วยได้
สำหรับน้องๆ คนไหนที่อยากเรียนครบทุกทักษะทั้ง ฟัง พูด อ่าน เขียน และต้องการคะแนนที่ Band 6.0 ขึ้นไป ที่ InterPass เรามี services หลายอย่างทั้ง iWrite และ iSpeak เป็นที่เดียวที่ตรวจการบ้านให้แบบไม่จำกัด สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ตามช่องทางการติดต่อด้านล่างได้เลยนะครับ
สรุปเลยครับว่าการพัฒนาทักษะพื้นฐานภาษาอังกฤษของเราเพื่อไปสอบ IELTS นั้นไม่ได้ยากครับ แต่ต้องลงมือทำจริง อยากได้ทักษะไหนต้องให้เวลากับทักษะนั้นให้มากๆ และทักษะจะไม่ได้เกินขึ้นในสัปดาห์เดียวหรือเดือนเดียวครับ ถ้าเร็วหน่อยอาจจะ 6 เดือน แต่บางคนใช้เวลาหลักปี ถึงแม้ว่ามันอาจจะนานแต่ก็ดีกว่าการที่เราไม่เริ่มนะครับ ดังนั้นอ่านบทความนี้จบแล้วเริ่มกันเลยครับ
ส่วนใครที่กำลังวางแผนการเรียนและอยากปรึกษา ทาง InterPass มีคอร์สเรียน IELTSและมีทีมโค้ชที่คอยให้คำแนะนำ น้องๆ สามารถปรึกษาได้ตามช่องทางการติดต่อด้านล่างนี้ได้เลยครับ
InterPass ที่ 1 ด้านอินเตอร์ 
สอบถามคอร์สเรียน Inbox: m.me/interpassinstitute
Line: @InterPass
Tel: 089-9964256, 089-9923965
