BLOG

สวัสดีคุณพ่อและคุณแม่ของน้องๆ InterPass ว่าที่คุณหมอทุกคนนะคะ วันนี้พี่แอดมินจะมาบอกข้อมูลที่จะช่วยคุณ พ่อคุณแม่ที่อยากให้น้องๆ สอบเข้าหมอรอบ1 ในการสอบเข้าคณะแพทย์ TCAS ที่ใครก็น่าจะคุ้นหูในชื่อว่า “แพทย์รอบ Portfolio” หรือ “หมอรอบ 1” นั่นเอง ซึ่งมหาลัยที่เปิดรับในรอบนี้มีมากมายหลายที่ ลองไปดูกันดีกว่าค่ะ ว่ามีข้อมูลสำคัญอะไรบ้างที่คุณพ่อคุณแม่ควรทราบในการติด หมอ TCAS รอบ 1

สอบเข้าคณะแพทย์ TCAS รอบ 1 ต้องใช้อะไรบ้าง?

1. GPAX หรือเกรดเฉลี่ยสะสม

ในการสอบแพทย์ รอบ Portfolio สิ่งแรกที่น้องๆต้องมีคือ GPAX หรือเกรดเฉลี่ยสะสม โดยส่วนมากมหาวิทยาลัยจะมีการกำหนดเกรดเฉลี่ยรวมทั้งหมด 4-5 เทอม ซึ่งแต่ละคณะในแต่ละมหาวิทยาลัยก็จะมีการกำหนดเกรดต่างกันออกไปอีก ซึ่งถ้าลูกๆของคุณพ่อคุณแม่มีเกรดเฉลี่ยสะสม 3.50 ขึ้นไปก็จะมีโอกาสในการยื่นเข้าคณะแพทย์ในทุกมหาลัยได้ หรือถ้าน้องๆบางคนที่มีเกรดเฉลี่ยต่ำกว่า 3.50 ก็ยังมีบางมหาลัยที่มีเกณฑ์รับเกรดเฉลี่ยที่ต่ำกว่าหรือบางที่ก็ไม่ได้มีกำหนดเกรดเฉลี่ยขั้นต่ำไว้เลยก็มีนะคะ

สอบเข้าหมอต้องใช้เกรดเท่าไหร่ ?

• GPAX 3.50 ขึ้นไป: แพทย์ จุฬาฯ, แพทย์รามาฯ และ แพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
• GPAX ต่ำกว่า 3.50: แพทยศาสตร์นานาชาติจุฬาภรณ์ (CICM), แพทย์มศว โครงการร่วมนอตติงแฮม และ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น
• ไม่กำหนดเกณฑ์ขั้นต่ำ: แพทย์จุฬาภรณ์ โครงการร่วม UCL และแพทย์อินเตอร์ ลาดกระบัง

2. IELTS หรือคะแนนภาษาอังกฤษ

คณะแพทย์ใน TCAS รอบ 1 ส่วนมากตัวนักศึกษาเองต้องมีความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ ทำให้มหาวิทยาลัยมีการกำหนดการใช้คะแนนภาษาอังกฤษเป็นเกณฑ์รับสมัครในการยื่นเข้า ซึ่งข้อสอบที่มีความนิยมในการยื่นเข้านั่นคือ “IELTS” เพราะสามารถยื่นเข้ามหาลัยวิทยาลัยได้แทบทุกคณะของ TCAS พี่ๆแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่ดันให้น้องๆมีคะแนนของ IELTS นะคะ ตั้งเป้าไว้ขั้นต่ำคือ IELTS Band 7.0 เลยค่ะเพราะคะแนนนี้จะสามารถยื่นได้ในคณะแพทย์ทุกที่ค่ะ

ตัวอย่างเกณฑ์คะแนน IELTS ในการเข้าหมอรอบ 1

• IELTS ไม่ต่ำกว่า Band 7.0: แพทย์ จุฬาฯ, แพทย์จุฬาภรณ์ โครงการร่วม UCL, แพทย์อินเตอร์ ลาดกระบัง และ แพทย์ มศว โครงการร่วมนอตติงแฮม
• IELTS ไม่ต่ำกว่า Band 6.5: แพทย์ รามาฯ, แพทย์อินเตอร์ มธ. และ แพทย์ ม.เชียงใหม่

3. BMAT (BioMedical Admissions Test)

วิชา BMAT เป็นคีย์สำคัญในการสอบเข้าคณะแพทย์ TCAS รอบ 1 เพราะ เกือบทุกมหวิทยาลัยมีการกำหนดยื่นคะแนน BMAT ใช้เป็นเกณฑ์สำคัญในการคัดเลือก และจะให้น้ำหนักของคะแนน BMAT มากกว่าเกรดเฉลี่ยรวมหรือการสอบทักษะภาษาอังกฤษโดยการสอบของ BMAT จะใช้คะแนนทั้ง 3 Part นำมารวมกันในการยื่น

ข้อสอบ BMAT แบ่งออกเป็น 3 Part ดังนี้

• Part 1: Thinking skills เป็นข้อสอบแนว Problem solving (หรือที่เรียกกันว่า Aptitude) และเป็นข้อสอบแนว Critical thinking (หรือที่เรียกกันว่า Critical analysis) โดยมีคะแนนเต็ม 9
• Part 2: Scientific Knowledge and Applications เป็นข้อสอบที่มีเนื้อหาที่ครอบคลุมวิชา ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ และคณิตศาสตร์ โดยมีคะแนนเต็ม 9
• Part 3: Writing Task เป็นข้อสอบที่ใช้วัดความสามารถในการจัดการความคิดและสื่อสารด้วยการเขียนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีคะแนนเต็ม 5

4. Portfolio

นอกจาก 3 ข้อที่กล่าวมาแล้วนั้นยังมีอีกข้อนึงที่น้องๆทุกคนต้องมีไว้นั้นคือ Portfolio หรือแฟ้มสะสมผลงานของน้องๆที่แสดงให้เห็นถึง ตัวตน ความสามารถและทักษะความรู้ รวมถึงการเข้าร่วมกิจกรรมของโรงเรียน หรือจะเป็นผลงานรางวัลที่น้องๆได้รับมา เตรียมไว้สำหรับยื่นเข้ามหาวิทยาลัย และน้องๆควรจะมี portfolio เกี่ยวกับ งานจิตอาสา งานวิชาการ งานวิจัยหรือกิจกรรมอื่นๆที่อยากจะนำเสนอเพิ่มเติมเข้าไป

5. Interview

ด่านประตูสุดท้ายของการสอบเข้าคณะแพทย์ รอบ 1 นั่นคือการสัมภาษณ์แบบ MMI (Multiple Mini Interview) โดยที่จะมีการแบ่งออกเป็นสถานีย่อยๆลงไป น้องควรจะตอบคำถามที่แสดงออกถึงทัศนคติ การตัดสินใจหรือประสบการณ์ต่างqที่จะทำให้สามารถเข้าคณะที่น้องๆหวังได้

ถ้าน้องๆอยากจะเสริมทักษะในทำ Portfolio และการสอบสัมภาษณ์ที่ดีขึ้น พี่ๆแอดมินขอแนะนำคอร์ส Portfolio & Interview ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่นี่เลยค่ะ

ก็ครบแล้วนะคะสำหรับคู่มือข้อมูลสำคัญในการสอบเข้าคณะแพทย์ รอบ 1 ที่คุณพ่อคุณแม่ควรมีข้อมูลนี้ติดตัวไว้เพื่อที่จะสามารถพูดคุยกับน้องๆ ในการเตรียมตัววางแผนก่อนสอบ หรือถ้ามีข้อสงสัย หรืออยากปรึกษาเพิ่มเติม ติดต่อสอบถามข้อมูลมาได้เลยนะคะที่ Line : @InterPass หรือโทรสอบถามข้อมูลได้ที่ Tel : 089-9964256, 089-9923965 ครับสามารถติดต่อสมัครได้ทุกวัน ไม่มีวันหยุด 09:00 – 19:00 น. ค่า

________________________________________
InterPass ที่ 1 ด้านอินเตอร์ ✈️
สอบถามคอร์สเรียน Inbox: m.me/interpassinstitute
Line: @InterPass
Tel: 089-9964256, 089-9923965