สวัสดีชาว InterPass ทุกคนค่ะ ช่วงนี้พี่ๆแอดมินเห็นมีคนเข้ามาสอบถามกันบ่อยๆจากทั้งผู้ใหญ่และน้องๆ ที่เรียน EP ในม.ต้นมายังต้องเรียนเสริมด้านภาษาอังกฤษอยู่ไหม? เพราะหลักสูตรที่เรียนมาในม.ต้นก็เป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษอยู่แล้วนี่นาไม่น่าจะต้องเรียนเสริมมากมาย
ก่อนที่เราจะไปหาคำตอบเพิ่มเติม หลายๆคนอาจจะยังไม่รู้ว่า EP คืออะไร EP หรือ English Program เป็นหลักสูตรที่เกิดขึ้นในหลายๆ โรงเรียนโดยมุ่งเน้นที่จะเสริมสร้างทักษะด้านภาษาอังกฤษให้แก่นักเรียน โดยเรียนภาษาอังกฤษที่เข้มข้นกว่าภาคปกติ และเรียนบางวิชาเป็นภาษาอังกฤษด้วย
หลักสูตร EP ต่างจากโรงเรียนอินเตอร์อย่างไร?
ถ้าในหัวข้อหลักๆ เลยก็คงเป็นเรื่องของหลักสูตรค่ะ โปรแกรม EP ก็จะเรียนในบางหลักสูตรไทยเเต่เรียนเป็นภาษาอังกฤษ ส่วนโรงเรียนอินเตอร์ก็จะเรียนหลักสูตรนานาชาติเลย ซึ่งความเเตกต่างอีกอย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดเลยคือ สังคม บรรยากาศ และสภาพเเวดล้อม เด็กที่อยู่โรงเรียนนานาชาติโดยส่วนมากแล้วจะคุยกันโดยใช้ภาษาอังกฤษไม่ว่าจะเป็นตอนเรียนหรือตอนทำกิจกรรมต่าง หรือเวลาพักและโรงเรียนหลายแห่งก็จะมีวัฒนธรรมตามแบบตะวันตก เช่น กฏระเบียบ และความคิดต่างๆ ในขณะที่โปรแกรม EP ยังอยู่ในสังคมเเละวัฒนธรรมไทยที่จะต้องมีการเข้าแถวหน้าเสาธง มีหลักสูตรลูกเสือเนตรนารี สรุปก็คือหลักสูตร EP มีการผสมผสานระหว่างการเรียนเป็นภาษาอังกฤษเเละการได้อยู่ในสภาพแวดล้อมของวัฒนธรรมไทยนั่นเองค่ะ
ปัญหาสำคัญของน้อง EP คืออะไร?
น้องๆที่เรียนหลักสูตร EP หรือ English Program เป็นทางเลือกนึงที่ค่อยๆได้รับความนิยมในนักเรียน ม.ต้นและ ม.ปลาย เพราะภาษาอังกฤษมีความสำคัญอย่างมากในปัจจุบัน ทั้งในการใช้ในการเรียน การสื่อสาร และเป็นความได้เปรียบในการสอบเข้าเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัย ซึ่งทางผู้ปกครองก็มีความคาดหวังไว้ในตัวเด็กที่เรียนว่าจะมีการพัฒนาในด้านภาษาที่ดีขึ้นเมื่อเข้าเรียนหลักสูตร EP แต่พอมีข้อสงสัยในเรื่องการเรียนเสริมด้านภาษาหลายคนยังเข้าใจผิดว่าอาจจะไม่มีความจำเป็นที่ต้องเรียนเสริมรึเปล่า นั่นอาจจะทำให้หลายคนยังเข้าใจผิดอยู่ค่ะ
ปัจจุบันหลักสูตร EP ในหลายๆโรงเรียนจะมีการสอนเป็นภาษาอังกฤษลงไปในหลักสูตรก็จริง แต่โอกาสของน้องๆที่จะได้มีการสื่อสารกับชาวต่างชาติจริงๆก็ยังมีน้อยกว่าการเรียนภาคอินเตอร์ และปัญหาอีกเรื่องนึงก็คือการใช้ภาษาอังกฤษในเชิงวิชาการ (Academic English) นั้นในโรงเรียนที่เป็นหลักสูตร EP ก็มีการถูกให้ความสำคัญน้อยลง เพราะหันไปให้ความสำคัญในการ “สื่อสาร” มากกว่าทำให้การ สื่อสารอย่างถูกหลักภาษามีผลเมื่อมีการสอบวัด English Proficiency เมื่อต้องมีการเรียนในระดับที่สูงขึ้นไป
ซึ่งคุณพ่อคุณแม่หลาย ๆ ท่านอาจกำลังพบว่าลูกๆของเราที่เรียน EP อยู่ทุกวันนี้มีปัญหา คือ มีทักษะการฟังภาษาอังกฤษที่ดี แต่พอให้พูดหรือตั้งคำถามเมื่อไหร่กลับนึกไม่ออก-พูดไม่ได้ ทั้งยังใช้ภาษาอังกฤษแบบผิดหลักภาษา และยังอ่อนวิชาพวกคณิตศาสตร์หรือวิทยาศาสตร์อีกด้วย ปัญหาต่าง ๆ เหล่านี้อาจจะเกิดจากหลาย ๆ สาเหตุทั้งตัวโรงเรียนเอง หลักสูตรเอง หรือแม้กระทั้งตัวเด็กเอง และจากหนังสือ แต่สำหรับน้องๆที่กำลังมีปัญหานี้อยู่ยังไม่ต้องกังวลไปเพราะถ้าน้องๆไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเอง พี่ๆแอดมินเชื่อว่าความฝันที่จะไปต่อก็ไม่ยากเกินความสามารถของน้องๆแน่นอนค่ะ และวันนี้เพราะพี่ๆ InterPass ยังมีเคล็ดลับมาแนะนำให้น้องๆใช้ภาษาอังกฤษได้ดีขึ้นอีกด้วย ไปดูกันเลยยย!!
3 เทคนิคง่ายๆให้น้อง ลองไปปรับใช้ฝึกภาษาอังกฤษกัน
1.ใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวัน
เริ่มต้นง่ายๆแค่น้องๆปรับภาษาอังกฤษเข้ามาใช้ในชีวิตประจำวันให้มายิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการฟังเพลง ให้น้องๆลองหันมาฟังเพลงแนวสากลมากขึ้น ลองอ่านเนื้อเพลงแล้วลองแปลดูก็เพลินไปอีกแบบ ซึ่งการฟังเพลงจะช่วยในเรื่องของการฟังและการออกเสียงที่ดีขึ้น หรือ คนที่ชอบดูซีรี่ย์ต่างประเทศอยู่แล้วลองเปลี่ยนจากการฟังภาษาไทยลองหันมาฟังภาษาอังกฤษมากขึ้นและอ่านซับไทยแทน เริ่มจากหนังที่พล๊อตของเรื่องไม่ซับซ้อนจนเกินไป แล้วค่อยปรับความยากขึ้นไปเรื่อย หรือก่อนจะเข้านอนลองหาพอร์ตแคสที่พูดถึงศัพท์ภาษาอังกฤษฟังวนไปอาจจะทำให้เราเพิ่มศัพท์ในความจำได้ดีมากขึ้น
2.ฝึกการใช้หลักแกรมม่า
นอกจากเราจะหันมาปรับใช้ภาษาอังกฤษในชีวิตประจำวันมากขึ้นแล้ว น้องๆต้องหันมาฝึกหลักการเขียนหรือพูดให้ถูกหลักแกรมม่ามากยิ่งขึ้นเพราะภาษาอังกฤษที่เราพูดกันในทุกวันก็อาจจะไม่ได้ถูกหลักภาษาในทุกคำเสมอไป ถ้าเราเอาไปใช้ในการสอบเรียนหรือสอบเข้าขึ้นมาอาจจะทำให้เราเสียคะแนนในส่วนนั้นไปได้ ดังนั้นน้องๆต้องฮึบสู้ในการฝึกหลักแกรมม่าเพื่อต่อยอดไปสู่ Academic English และการทำแบบทดสอบวัด English Proficiency ในระดับที่สูงขึ้น ทั้ง TOEFL ITP, IELTS, SAT Reading & Writing หรือการสอบอื่นๆก็ต้องแม่นยำในเรื่องของแกรมม่าให้มากขึ้นค่ะ
3.ปรึกษาวางแผนการเรียน
ข้อสุดท้ายนี้ ถ้าน้องๆยังรู้สึกว่าการทำสองข้อข้างต้นยังไม่เป็นผลสำหรับน้องๆพอ ก็ต้องมองหาตัวช่วยในการฝึกฝนเพิ่มเติมจากนอกห้องเรียน ที่ทำให้เราเข้าใจง่ายและสนุกไปกับมันมากขึ้น การลงเรียนคอร์สเพิ่มเติมจึงเป็นอีกทางเลือกในการที่จะพาน้องๆไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ได้เร็วมาขึ้น น้องๆอาจจะคิดว่ามันจำเป็นจริงๆรึเปล่าแต่ขอบอกขากประสบการณ์เลยว่าการเรียนเสริมคือการต่อยอดเหมือนกับติดอาวุธเพิ่มเติมให้ตัวน้องๆเอง ได้ฝึกฝนก่อนลุยสนามจริงจากผู้มีประสบการณ์โดยตรงเน้นเฉพาะส่วนที่จำเป็น ซึ่งการสอบปัจจุบันนั้นมักจะวัดความสามารถการใช้ภาษาในภาพรวมซึ่งต้องอาศัยประสบการณ์และการฝึกฝนที่สม่ำเสมอการลงติวคอร์สหรือการเรียนเสริมกับสถาบันกวดวิชาจึงเป็นทางเลือกนึงที่จะช่วยดึงคะแนนของน้องให้เป็นไปตามที่คาดหวังไว้ได้ค่ะ
จากทั้ง 3 ข้อนี้คงสรุปได้แล้วว่าผู้ปกครองหรือน้องๆคนไหนที่ยังมีความลังเลว่าจะต้องเรียนเสริมภาษาอยู่ดีไหม พี่ๆแอดมินขอให้คำตอบเลยว่า การฝึกฝนนอกเหนือจากห้องเรียนเป็นสิ่งที่น้องๆควรทำอยู่แล้ว และการเรียนเสริมจากสถาบันกวดวิชาก็เป็นอีกทางเลือกนึงของน้องที่จะพัฒนาทักษะด้านภาษาให้เป็นเหมือนจรวดที่พุ่งทยานไปได้เร็วและมั่นใจที่จะไปพิชิตคะแนนได้ดียิ่งขึ้นนั่นเอง
คอร์สเรียน EP ม.ต้น ออนไลน์
สำหรับน้องๆที่สนใจในคอร์สเรียน ม.ต้น EP วันนี้ทางพี่ๆแอดมินมี Package รวมพิเศษมาบอกน้องๆ ที่จะเก็บครบทุกเนื้อหาของ ม.ต้น EP จากพี่ๆที่มากด้วยประสบการณ์อย่างครูพี่กิ๊บ และ ครูพี่อาร์ม ที่จะมาสอนแบบจัดเต็มครบและสนุกในทุกการเรียนแบบไม่มีกั๊กเลยค่ะ น้องๆที่สนใจอ่านเพิ่มเติมเข้าไปดูได้ที่นี่ คอร์ส InterPrep ม.ต้น
หรืออยากจะซื้อคอร์สเรียน InterPrep ม.ต้น แยกรายวิชาไปเข้าไปเลือกได้ที่นี่
น้องๆสามารถเข้ามาติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากพี่ๆ InterPass ได้ทั้งช่องทางของ Line : @interpass หรือโทร Tel:089-996-4256 , 089-992-3965 หรืออยากเข้ามาปรึกษาพี่ๆโดยตรงได้เลยที่ InterPass สาขาสยามสแควร์ซอย 10 และสาขาวรรณสรณ์ชั้น 9 สมัครได้ทุกวัน ไม่มีวันหยุด 09:00 – 19:00 น.ได้เลยนะคะ
________________________________________
InterPass ที่ 1 ด้านอินเตอร์ ✈️
สอบถามคอร์สเรียน Inbox: m.me/interpassinstitute
Line: @InterPass
Tel: 089-9964256, 089-9923965