ข้อสอบ Standardized Test ที่ใช้ยื่นสมัครเข้ามหาวิทยาลัยในอเมริกา หรือหลักสูตรอินเตอร์ในไทย เช่น Digital SAT และ ACT ต่างก็ได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัยชั้นนำทั่วโลก รวมถึง Top US Universities / Ivy League และหลักสูตรอินเตอร์ในไทย เช่น MUIC, Chula ISE, Thammasat BBA, CU AEM โดย มหาวิทยาลัยเกือบทุกแห่งรับคะแนนทั้ง SAT และ ACT เป็นเกณฑ์สำหรับการรับนิสิตนักศึกษาต่อระดับปริญญาตรี ทำให้น้อง ๆ สามารถเลือกสอบได้ตามความถนัดและจุดแข็งของตัวเอง โดยบทความนี้จะพาน้อง ๆ ไปดูแบบเจาะลึก ACT Math และ SAT Math ว่าข้อสอบแต่ละตัวมีโครงสร้างเป็นอย่างไร แตกต่างกันตรงไหน และควรเลือกสอบตัวไหนดีให้เหมาะกับจุดแข็งของตัวเอง พร้อมเคล็ดลับและแนวทางการเตรียมตัวเพื่อทำคะแนนได้สูงสุด
ACT Math vs SAT Math ตัวไหนยากกว่ากัน ?
หนึ่งในคำถามยอดฮิตของน้อง ๆ ที่กำลังตัดสินใจสอบคือ
“ระหว่าง ACT Math กับ SAT Math อันไหนยากกว่ากัน?”
คำตอบคือ… ยากคนละแบบ!
ACT Math เน้นความเร็วและครอบคลุมหลายเรื่อง ส่วน SAT Math เน้นการตีโจทย์เชิงวิเคราะห์และเชื่อมโยงข้อมูล
ดังนั้น การเลือกว่าจะสอบ ACT หรือ SAT ขึ้นอยู่กับ สไตล์การคิดเลขของน้องเอง มากกว่า
ในบทความนี้พี่ ๆ จาก Interpass จะพาน้อง ๆ มาดูภาพรวมของ ACT Math
รวมถึงสรุปเปรียบเทียบ SAT vs ACT Math ว่าต่างกันยังไง และข้อไหนเหมาะกับใครที่สุด
ACT Math คืออะไร?
ข้อสอบ ACT (American College Testing) แบ่งเป็น 4 พาร์ทหลักๆ
- English
- Math
- Reading
- Science
ข้อสอบจัดสอบแบบคอมพิวเตอร์ ใช้เวลาประมาณ 3–4 ชั่วโมง
สมัครสอบได้ที่เว็บไซต์ ACT.org และสามารถดาวน์โหลดข้อสอบตัวอย่างฟรีเพื่อฝึกจับเวลาจริงได้
ในบรรดา 4 พาร์ททั้งหมด ACT Math ถือเป็นหนึ่งในพาร์ทที่มีผลต่อคะแนนรวมมากที่สุด
ดังนั้นการเข้าใจ “โครงสร้างข้อสอบ” และ “แนวเนื้อหาที่ออก” คือกุญแจสำคัญในการทำคะแนนสูงค่ะ
รูปแบบข้อสอบ ACT Math
- จำนวนข้อสอบทั้งหมด: 60 ข้อ
- เวลาทำข้อสอบ: 60 นาที (เฉลี่ยข้อะละ 1 นาทีเท่านั้น!)
- รูปแบบคำถาม: Multiple Choice 4 ตัวเลือก
- ไม่มีการหักคะแนนเมื่อตอบผิด
ด้วยเวลาที่จำกัดมาก การฝึก “อ่านโจทย์เร็ว + ตีโจทย์ไว” คือหัวใจสำคัญของการทำข้อสอบนี้ให้ทัน
3 Main Types of Questions ในข้อสอบ ACT Math
- Algebra รวมถึงการแก้สมการ อสมการ ฟังก์ชัน กราฟ สมการกำลังสอง พหุนาม และลอการิทึม ข้อสอบส่วนนี้คิดเป็น 12–15% ของคะแนนทั้งหมด นักเรียนจะต้องแก้สมการหลายรูปแบบ เช่น linear, polynomial, radical, exponential รวมถึงระบบสมการบางประเภทและสามารถประยุกต์แก้โจทย์จริงได้
- Data Analysis / Statistics & Probability เน้นการวิเคราะห์ข้อมูลจากกราฟและตาราง การคำนวณร้อยละ การอธิบายค่ากลางและการกระจายของข้อมูล การใช้วิธีเก็บข้อมูล วิเคราะห์ความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปร และการคำนวณความน่าจะเป็น รวมถึง sample space ข้อสอบประเภทนี้คิดเป็น 8–12% ของคะแนนทั้งหมด
- Geometry ครอบคลุมรูปทรงและพื้นที่ การวัดปริมาตร มุม เส้นตรง ทรงเรขาคณิต และตรีโกณมิติ นักเรียนจะต้องเข้าใจความสัมพันธ์ของวัตถุ เช่น congruence, similarity และสามารถแก้โจทย์หาค่าที่ขาดหายไปในสามเหลี่ยม วงกลม และรูปอื่น ๆ รวมถึงการใช้สมการ conic sections ข้อสอบคิดเป็น 12–15% ของคะแนนทั้งหมด
30 Sub Topics ที่ออกสอบ ACT Math บ่อย
ข้อสอบ ACT Math ครอบคลุมมากกว่า 30 หัวข้อย่อย ตั้งแต่พื้นฐานระดับมัธยมต้นจนถึงระดับ Pre-calculus โดยตัวอย่างหัวข้อที่พบบ่อย ได้แก่
- Linear & Quadratic Equations – สมการเชิงเส้นและสมการกำลังสอง
- Polynomials – พหุนาม
- Exponential & Logarithmic Functions – ฟังก์ชันเอ็กซ์โพเนนเชียลและลอการิทึม
- Probability & Statistics – ความน่าจะเป็นและสถิติ
- Geometry & Trigonometry – พื้นที่ ปริมาตร มุม และตรีโกณมิติ
นอกจากนี้ ACT Math ยังวัดทักษะ Integrating Essential Skills ประมาณ 40–43% ของข้อสอบทั้งหมด ซึ่งเน้นการรวมความรู้หลายด้านเพื่อแก้ปัญหาที่ซับซ้อน เช่น การคำนวณอัตราและร้อยละ, ความสัมพันธ์เชิงสัดส่วน, พื้นที่และปริมาตร, การหาค่าเฉลี่ยและมัธยฐาน, การแก้โจทย์หลายขั้นตอน รวมถึงการใช้ทักษะทางคณิตศาสตร์ในบริบทต่าง ๆ
Modeling เป็นอีกส่วนหนึ่งของข้อสอบ ซึ่งวัดความสามารถในการสร้าง โมเดล วิเคราะห์ และปรับปรุงแบบจำลองทางคณิตศาสตร์ ข้อสอบทุกข้อที่เกี่ยวข้องกับ Modeling จะถูกนับรวมในหมวดอื่น ๆ ด้วย
จุดเด่นของ ACT คือ “ออกกว้างแต่ไม่ลึกมาก” ในขณะที่ SAT จะ “ออกแคบกว่าแต่ลึกกว่า”
พูดง่าย ๆ คือ ACT จะคล้ายข้อสอบที่น้อง ๆ เคยเจอในโรงเรียน ส่วน SAT จะออกแนวให้คิดเชิงวิเคราะห์มากกว่า
Calculator Policy
ข้อดีของ ACT Math คือ อนุญาตให้ใช้เครื่องคิดเลขได้ 100% ตลอดข้อสอบ
น้อง ๆ สามารถนำเครื่องคิดเลขของตนเองเข้าไปในห้องสอบได้ (แต่ต้องตรวจสอบรุ่นที่ได้รับอนุญาตก่อน เช่น TI, Casio, HP บางรุ่นไม่อนุญาต)
เกณฑ์การให้คะแนน
ข้อสอบ 60 ข้อ คิดคะแนนดิบ (Raw Score) 0–60 จากนั้นนำมาแปลงเป็น Scale Score 0–36
ซึ่งคะแนนรวมของพาร์ท Math จะถูกนำไปเฉลี่ยรวมกับพาร์ทอื่น ๆ เพื่อได้ “Composite Score” (คะแนนรวม 36 เต็ม)
SAT Math vs ACT Math แบบละเอียด : ข้อดี–ข้อเสียของแต่ละพาร์ท
แม้ทั้งสองข้อสอบจะทดสอบ “คณิตศาสตร์ระดับมัธยมปลาย” เหมือนกัน แต่สไตล์การวัดผลต่างกันพอสมควร เพื่อให้น้อง ๆ ตัดสินใจได้ง่ายขึ้น พี่ ๆ Interpass สรุปข้อดี–ข้อเสียของแต่ละพาร์ทมาให้ครบในตารางเดียว


🔍 วิเคราะห์เชิงลึก
🟦 จุดเด่นของ SAT Math
- มีเวลาคิดต่อข้อเยอะกว่า
- โจทย์ส่วนใหญ่ “คิดวิเคราะห์” มากกว่า “คำนวณหนัก”
- ข้อสอบใหม่ (Digital SAT) ออกแนว Practical เช่น ปัญหาจากสถานการณ์จริง
🟥 จุดด้อยของ SAT Math
- ต้องอ่านโจทย์ภาษาอังกฤษยาว ๆ ซึ่งใช้เวลา
- ต้องเข้าใจคำศัพท์ทางคณิต เช่น “proportion”, “mean”, “percent increase”
🟩 จุดเด่นของ ACT Math
- โจทย์สั้น เข้าใจง่าย เหมือนข้อสอบในโรงเรียนอินเตอร์
- เหมาะกับคนที่ชอบ “ทำเร็ว ตอบไว
- เป็น multiple-choice ทั้งหมด
🟥 จุดด้อยของ ACT Math
- เวลาน้อยมาก ต้องตอบเฉลี่ย “1 นาทีต่อข้อ”
- เนื้อหากว้างกว่า SAT เยอะ (ต้องทบทวน Geometry/Trigo/Pre-calculus ด้วย)
- ต้องจัดการเวลาอย่างรัดกุม เพราะโจทย์ท้าย ๆ ยากและใช้เวลานาน
แล้วเราควรเลือกสอบอะไรดี?
SAT Math – เหมาะกับใคร?
สำหรับน้อง ๆ ที่เรียนโรงเรียนอินเตอร์ / หลักสูตรนานาชาติ
- โจทย์ SAT Math มักเน้น การตีความโจทย์และใช้เหตุผล มีหลายข้อที่ต้องวิเคราะห์ข้อมูล อ่านกราฟ และคิดเชิงตรรกะ
- เหมาะกับน้อง ๆ ที่ถนัด การอ่านภาษาอังกฤษ และการทำโจทย์แนว Reasoning
- บางหัวข้อใช้ ฟังก์ชันและกราฟ แต่จำนวนโจทย์ต่อหัวข้อมักสั้นกว่า ACT
สำหรับน้อง ๆ ที่เรียนโรงเรียนไทย
- SAT Math เป็นข้อสอบที่ ค่อนข้างตรงไปตรงมา แต่บางเรื่องเช่น การตีความข้อมูล หรือโจทย์ word problem อาจต้องใช้ ความเข้าใจภาษาอังกฤษ
- น้อง ๆ ที่เรียนหลักสูตรไทยอาจต้องฝึก อ่านโจทย์และตีความคำศัพท์ทางคณิตศาสตร์ ให้คล่อง
💡 สรุป: SAT Math เหมาะกับน้อง ๆ ที่ถนัด การตีความและวิเคราะห์โจทย์ภาษาอังกฤษ แม้สำหรับน้อง ๆ โรงเรียนไทยก็สอบได้ดี เพียงแค่ต้องฝึก การอ่านโจทย์และตีความคำศัพท์ เพิ่มเติม
ACT Math – เหมาะกับใคร?
สำหรับน้อง ๆ ที่เรียนโรงเรียนอินเตอร์ / หลักสูตรนานาชาติ
- โจทย์ ACT Math คล้ายกับโจทย์ที่เจอในหลักสูตร AP Math, Pre-calculus, Algebra/Geometry ระดับสูง
- เหมาะกับน้อง ๆ ที่คุ้นเคยกับ โจทย์วิเคราะห์และโจทย์ปัญหาแบบคิดหลายขั้นตอน
- มีการใช้ กราฟ ตาราง และฟังก์ชัน เยอะ ซึ่งเป็นสิ่งที่เรียนในโรงเรียนอินเตอร์บ่อย
สำหรับน้อง ๆ ที่เรียนโรงเรียนไทย
- บางหัวข้ออาจยากกว่า เพราะ โจทย์หลายข้อรวมทักษะหลายด้าน หรือใช้ concept ที่ไม่สอนในชั้นเรียนไทยทุกแห่ง
- น้อง ๆ ที่เรียนตามหลักสูตรไทยอาจต้อง ฝึกโจทย์ ACT เพิ่มเติม เพื่อให้คุ้นกับรูปแบบและใช้ Desmos หรือเครื่องคิดเลขอย่างมีประสิทธิภาพ
💡 สรุป: ACT Math เหมาะกับน้อง ๆ โรงเรียนอินเตอร์มากกว่า เพราะสอดคล้องกับวิธีคิดและรูปแบบโจทย์ แต่สำหรับน้อง ๆ โรงเรียนไทยก็สอบได้ เพียงแต่ต้อง เตรียมตัวเพิ่มและฝึกโจทย์เยอะขึ้น
สรุป จะเลือกสอบ ACT Math หรือ SAT Math ดี?
ทั้งสองข้อสอบสามารถใช้ยื่นมหาวิทยาลัยได้เหมือนกัน 100%
ดังนั้น “ไม่มีข้อสอบไหนดีกว่ากัน” — มีเพียง “ข้อสอบที่เหมาะกับเรามากกว่า” เท่านั้น
ถ้าน้อง ถนัดคำนวณเร็ว จำสูตรเก่ง และอยากทำโจทย์แบบตรงไปตรงมา → เลือก ACT Math
ถ้าน้อง ชอบคิดวิเคราะห์ อ่านโจทย์ยาวได้ดี และมีเวลาทำต่อข้อเยอะกว่า → เลือก SAT Math
ไม่ว่าน้องจะเลือกสอบ SAT Math หรือ ACT Math
สิ่งสำคัญที่สุดคือ “การรู้แนวข้อสอบและฝึกให้ตรงจุด”
พี่ ๆ Interpass แนะนำให้เริ่มจาก
✅ ทำ Mock Test ของทั้งสองข้อสอบ
✅ จับเวลาเหมือนสอบจริง
✅ วิเคราะห์ว่าข้อสอบแบบไหนเหมาะกับสไตล์ของเรา
เมื่อเลือกข้อสอบได้แล้ว ค่อยลงคอร์ส ติว SAT / เรียน SAT ออนไลน์ / หรือ ACT เพราะการเตรียมตัวที่เฉพาะทางจะช่วยให้น้องทำคะแนนได้สูงสุดตั้งแต่รอบแรกแน่นอน!
ติว SAT / ACT กับ Interpass พร้อมคอร์ส Digital SAT Math ครบจบในที่เดียว
อยากสอบ SAT หรือ ACT ให้ได้คะแนนสูงตั้งแต่รอบแรก? เริ่มต้นง่าย ๆ ด้วยคอร์สจาก Interpass ที่ออกแบบโดยทีมติวเตอร์ผู้เชี่ยวชาญด้านสอบเข้าอินเตอร์โดยเฉพาะ
Digital SAT Math
สอนครบทุกเนื้อหาที่ใช้สอบ Digital SAT Math พร้อม โจทย์ฝึกฝนจริง + เทคนิคทำข้อสอบเร็วแบบ Critical Thinking
📚 เนื้อหา 54 ชั่วโมง (รวมทบทวน 12 ชั่วโมง)
💰 ราคาเพียง 16,900 บาท
🧑🏫 เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่จะยื่นเข้ามหาวิทยาลัยภาคอินเตอร์ ทั้งสาย Business, Arts และ Science
ACT Math
สอนครบทุกเนื้อหาที่ใช้สอบ ACT Math พร้อม โจทย์ฝึกปฏิบัติจริง และเทคนิคทำข้อสอบเร็วแบบ Critical Thinking
📚 เนื้อหา 24 ชั่วโมง (รวมทบทวน 5 ชั่วโมง)
💰 ราคาเพียง 16,900 บาท
🧑🏫 เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่จะยื่นเข้ามหาวิทยาลัยภาคอินเตอร์ โดยเฉพาะหลักสูตร วิศวกรรมศาสตร์ เช่น ISE CU, ICT MUIC
UNLIMITED INTER PACKAGE SET A
คอร์สครบจบใน 6 เดือน เลือกเรียนได้ 21 คอร์ส ครอบคลุม 3 กลุ่มวิชา
English: IELTS / CU-TEP / TU-GET
Aptitude Test: Digital SAT English / Digital SAT Math
Science Proficiency: ACT Science
เหมาะสำหรับน้อง ๆ ที่ต้องการยื่นเข้ามหาวิทยาลัยภาคอินเตอร์ เช่น MUIC, CU ISE, TU BBA และหลักสูตรอินเตอร์ชั้นนำอื่น ๆ
ตัวช่วยเสริมเพิ่มคะแนน SAT Verbal & Math เร่งด่วน
5-Day SAT Express — ติวเข้ม 5 วัน (SAT Verbal 2 วัน, SAT Math 2 วัน, Simulation Test 1 วัน)
📅 จัดปีละ 4 ครั้งเท่านั้น!
- SAT Up Score — ติวเข้มโจทย์ยาก เพิ่มโอกาสแตะ 1500+
- SAT Test Bank — รวมข้อสอบฝึกทำจริง พร้อมเฉลยละเอียดทุกข้อ
- iSIMU — สอบจำลองผ่านคอมพิวเตอร์เสมือนจริง เหมือนสนามสอบจริง 100%
- Line OpenChat — อัปเดตข่าวสาร SAT พร้อมเคล็ดลับการติวทุกสัปดาห์
- Line Academic Support — ทักถามติวเตอร์ได้โดยตรง เมื่อติดขัดระหว่างเรียน

