สวัสดีน้องๆ InterPass ทุกคนที่อยากเข้าวิศวะอินเตอร์แต่ยังไม่รู้ว่าต้องเตรียมตัวยังไง? ยื่นคะแนนอะไรบ้าง? วันนี้พี่ๆ InterPass ได้รวบรวมข้อมูลมาให้กับน้องๆทุกคนไว้เพื่อเป็นการเตรียมตัวให้พร้อมในการสอบเข้า วิศวะอินเตอร์ได้ไปอย่างชิวๆกันเลยค่ะ
ขั้นที่ 1 ศึกษาความต้องการของมหาวิทยาลัยที่ต้องการเข้า
น้องๆจำเป็นต้องทราบถึงข้อมูลก่อนว่า มหาวิทยาลัยหรือคณะวิศวะอินเตอร์ที่น้องๆต้องการจะเข้ามีหลักสูตรตามที่น้องๆสนใจเปิดรับอยู่รึเปล่า เพราะในคณะนั้นก็จะมีสาขาหลากหลายที่สอนแตกต่างกันไป น้องๆต้องประเมินความสนใจของตนเองก่อนโดยเริ่มจากการค้นหาข้อมูลจากทางออนไลน์หรือ หาผู้เชี่ยวชาญที่มีความรู้ประสบการณ์ให้คำปรึกษาและวางแผนไปจนถึงการเข้าร่วมกิจกรรมที่การจัดโปรโมทขึ้นเช่นงาน Open house เพื่อที่จะศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวกับโอกาสในการศึกษาต่อไปจนถึงงานในอนาคตของน้องๆ ซึ่งวันนี้พี่ๆได้รวบข้อมูลเบื้องต้นของคณะวิศวะอินเตอร์ยอดฮิต 3 คณะมาให้น้องๆดูว่าถ้าอยากเข้าคณะวิศวะอินเตอร์ของมหาวิทยาลัยนี้จะต้องสอบหรือยื่นข้อมูลอะไรบ้าง พร้อมแล้ว ไปกันเลย!!
เริ่มกันที่คณะแรกที่ไม่ว่าน้องๆคนไหนที่ยากเข้าวิศวะอินเตอร์ต้องเคยผ่านหูผ่านตาและอยากที่จะเข้าไปศึกษาต่ออย่างแน่นอนนั่นก็คือ คณะวิศวกรรมศาสตร์ (หลักสูตรนานาชาติ) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ISE) นั่นเองซึ่งในคณะนี้มีสาขาให้น้องๆเลือกถึง 5 สาขา ได้แก่วิศวกรรมนาโน (NANO), วิศวกรรมการออกแบบและการผลิตยานยนต์ (ADME), วิศวกรรมสารสนเทศและการสื่อสาร (ICE), วิศวกรรมอากาศยาน (AERO) และสาขาน้องใหม่ล่าสุด วิศวกรรมหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ (ROBOT AI) สำหรับน้องๆที่อยากจะเข้าคณะ ISE นี้ขั้นต้นต้องมีคะแนนสอบที่กำหนดไว้ตามเกณฑ์ของมหาลัยอยู่ 3 กลุ่มด้วยกันดังนี้
Requirement ของคณะวิศวะอินเตอร์ International School of Engineering (ISE)
1.) English Proficiency กลุ่มคะแนนภาษาอังกฤษ สำหรับคณะ ISE น้องๆสามารถเลือกสอบและยื่นคะแนนอย่างใดอย่างหนึ่ง ใน 3 ตัวเลือกตามความถนัดของน้องๆ โดยต้องผ่านเกณฑ์ ดังนี้
- CU-TEP คะแนนเต็ม 120 ต้องผ่านเกณฑ์ 80
- IELTS คะแนนเต็ม 9.0 ต้องผ่านเกณฑ์ 6.0
- TOEFL (iBT) คะแนนเต็ม 120 ต้องผ่านเกณฑ์ 80
สำหรับคำแนะนำของพี่ๆ แนะนำให้น้องเลือกสอบ IELTS ดีกว่าเพราะสามารถเลือกยื่นเข้ามหาลัยอื่นได้หลายที่กว่า เผื่อน้องอยากจะมีตัวเลือกที่อื่นก็สามารถใช้คะแนนนี้ยื่นได้ค่ะ
2.) Math กลุ่มคะแนนคณิตศาสตร์ น้องๆก็สามารถเลือกสอบตามความถนัดได้เช่นกัน โดยต้องผ่านเกณฑ์ ดังนี้
หากน้องยื่นด้วยคะแนน SAT MATH จะต้องยื่นคู่กับคะแนน SAT Subject test MATH Level II ซึ่งต้องผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำดังนี้
- SAT MATH คะแนนเต็ม 800 ต้องผ่านเกณฑ์ 620
- SAT Subject test MATH Level II คะแนนเต็ม 800 ต้องผ่านเกณฑ์ 600
แต่ถ้าหากน้องๆยื่นด้วยคะแนน CU-AAT จะพิจารณาแค่ Part MATH ซึ่งมีคะแนนเต็ม 800 คะแนน น้องๆต้องผ่านเกณฑ์ 480 คะแนนค่ะ
3.) Science กลุ่มคะแนนวิทยาศาสตร์ ก็สามารถเลือกสอบตามความถนัดได้อีกเช่นกัน โดยต้องผ่านเกณฑ์ ดังนี้
– SAT Subject test Physics คะแนนเต็ม 800 ต้องผ่านเกณฑ์ 600
– SAT Subject test Chemistry คะแนนเต็ม 800 ต้องผ่านเกณฑ์ 600
ในส่วนข้อกำหนดอื่นๆนอกจากนี้ ทางคณะยังมีการกำหนดค่าน้ำหนักคะแนน โดยแบ่งเป็น Science 40% , Math 30% , English Proficiency 20% , GPAX (ไม่กำหนดขั้นต่ำ) 5% และ Interview อีก 5% ซึ่งเป็นการสอบสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษด้วยค่ะ ซึ่งแนะนำให้เข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับเกณฑ์ในการยื่นคะแนนเข้าคณะให้ครบถ้วนเพื่อที่จะได้ไม่พลาดส่วนสำคัญอื่นๆค่ะ
Requirement ของคณะวิศวะอินเตอร์ Twinning Engineering Programs (TEP/TEPE)
สำหรับคณะวิศวะ TEP/TEPE เป็นอีกคณะหนึ่งที่ยอดฮิตของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่ง TEP จะเป็นหลักสูตรอินเตอร์ที่ได้รับความร่วมมือจากทางวิชาการของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ Nottingham University, UK และ University of New South Wales, Australia ซึ่งคนที่เรียนโปรแกรมนี้จะต้องเรียนที่ ธรรรมศาสตร์ 2 ปี และไปต่อที่ต่างประเทศอีก 2 ปี ส่วน TEPE จะเป็นการเรียนวิศวกรรมศาสตร์ในหลักสูตรภาษาอังกฤษในไทยที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต เป็นเวลา 4 ปี
ทั้ง 2 โปรแกรมจะเปิดสอนในสาขาวิชาของ Chemical Engineering, Civil Engineering, Electrical Engineering, Industrial Engineering และ Mechanical Engineering
สำหรับเกณฑ์ในการยื่นคะแนนเข้าเรียนของทั้ง 2 โปรแกรมนี้จะแบ่งออกเป็น 3 กลุ่มตามที่ทางมหาวิทยาลับได้กำหนดเอาไว้ ซึ่งพี่ๆ InterPass จะแนะนำคะแนนในส่วนใหญ่ที่นิยมนำมายื่นกันให้ดูค่ะ
1.) English Proficiency กลุ่มคะแนนภาษาอังกฤษ น้องๆสามารถเลือกสอบตามความถนัดได้ และเลือกยื่นคะแนนตัวใดตัวหนึ่ง โดยต้องผ่านเกณฑ์ ดังนี้
- TU-GET คะแนนเต็ม 1000 ต้องผ่านเกณฑ์ 450
- CU-TEP คะแนนเต็ม 120 ต้องผ่านเกณฑ์ 60
- IELTS คะแนนเต็ม 9.0 ต้องผ่านเกณฑ์ 5.0 (แต่ละทักษะ ≥ 4.0)
- TOEFL (iBT) คะแนนเต็ม 120 ต้องผ่านเกณฑ์ 61
- SAT Evidence-Based Reading & Writing คะแนนเต็ม 800 ต้องผ่านเกณฑ์ 400
- O-NET ภาษาอังกฤษ ต้องผ่านเกณฑ์ 45%
2.) Math กลุ่มคะแนนคณิตศาสตร์ น้องๆสามารถเลือกสอบตามความถนัดได้ และเลือกยื่นคะแนนตัวใดตัวหนึ่ง โดยต้องผ่านเกณฑ์ ดังนี้
- SAT Subject test Math Level II คะแนนเต็ม 800 ต้องผ่านเกณฑ์ 600
- PAT 1 (ความถนัดทางคณิตศาสตร์) ต้องผ่านเกณฑ์ 35%
- IB Diploma (MATH) ต้องผ่านเกณฑ์ ≥ 5
3.) Science กลุ่มคะแนนวิทยาศาสตร์ น้องๆสามารถเลือกสอบตามความถนัดได้ และเลือกยื่นคะแนนตัวใดตัวหนึ่ง โดยต้องผ่านเกณฑ์ ดังนี้
- SAT Subject test Physics คะแนนเต็ม 800 ต้องผ่านเกณฑ์ 600
- SAT Subject test Chemistry คะแนนเต็ม 800 ต้องผ่านเกณฑ์ 600
- PAT 2 (ความถนัดทางวิทยาศาสตร์) ต้องผ่านเกณฑ์ 35%
- IB Diploma (Chemistry หรือ Physics) ต้องผ่านเกณฑ์ ≥ 5
สำหรับข้อมูลอื่นๆแนะนำให้เข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับเกณฑ์ในการยื่นคะแนนเข้าคณะให้ครบถ้วน จากเว็บไซด์ของมหาลัยหรือผู้เชี่ยวชาญที่จะให้คำแนะนำได้ เพื่อที่จะไม่พลาดส่วนสำคัญอื่นๆ เมื่อน้องมีผลคะแนนผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนดแล้ว ต่อไปจะเป็นการสอบสัมภาษณ์+Portfolio ค่ะ
Requirement ของคณะวิศวะอินเตอร์ KMITL’S International College (IC)
อีก 1 มหาลัยยอดฮิตสำหรับคณะวิศวะที่ไม่พูดถึงไม่ได้นั่นคือ วิทยาลัยนานาชาติ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ซึ่งที่นี่เป็นอีกที่ที่มีน้องๆหลายคนสนใจอยากจะยื่นเข้าศึกษาต่อให้ได้เพราะคณะวิศวะที่นี่มีสาขาให้เลือกมากถึง 11 สาขา ได้แก่ Biomedical Engineering, Chemical Engineering, Civil Engineering, Computer Innovation Engineering, Electrical Engineering, Energy Engineering, Financial Engineering, Industrial & Management Systems Engineering, Mechanical Engineering, Robotics & AI Engineering และ Software ซึ่งสำหรับที่มหาลัยนี้น้องยังมีโอกาสได้ไปฝึกงานที่ต่างประเทศอีกด้วย
สำหรับคะแนนที่คณะที่นี่เปิดนรับมีหลากหลายคะแนนแต่วันนี้พี่ๆ InterPass จะขอยกเอาคะแนนที่คนส่วนใหญ่นิยมนำมายื่นกันแบ่งออกได้เป็น 3 กลุ่มตามเกณฑ์ที่มหาลัยกำหนดดังนี้
1.) English Proficiency กลุ่มคะแนนภาษาอังกฤษ น้องๆสามารถเลือกสอบตามความถนัดได้ และเลือกยื่นคะแนนตัวใดตัวหนึ่ง โดยต้องผ่านเกณฑ์ ดังนี้
- IELTS คะแนนเต็ม 9.0 ต้องผ่านเกณฑ์ 6.0
- TOEFL (iBT) คะแนนเต็ม 120 ต้องผ่านเกณฑ์ 79
2.) Standardized Test ต้องผ่านเกณฑ์
- SAT MATH + Evidence Based Reading&Writing คะแนนเต็ม 1,600 ต้องผ่านเกณฑ์ 1,100
3.) สำหรับสาขา Financial Engineering และ Software Engineering จะต้องผ่านเกณฑ์
- SAT MATH คะแนนเต็ม 800 ต้องผ่านเกณฑ์ 600
- SAT Subject test Math level II คะแนนเต็ม 800 ต้องผ่านเกณฑ์ 600
สำหรับข้อมูลอื่นๆแนะนำให้เข้าไปอ่านข้อมูลเพิ่มเติมสำหรับเกณฑ์ในการยื่นคะแนนเข้าคณะให้ครบถ้วน จากเว็บไซด์ของมหาลัยหรือผู้เชี่ยวชาญที่จะให้คำแนะนำได้ เพื่อที่จะไม่พลาดส่วนสำคัญอื่นๆ เมื่อน้องมีผลคะแนนผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนดแล้ว ด่านต่อไปจะเป็นการสอบสัมภาษณ์ภาษาอังกฤษ+Portfolio (ถ้ามี)
และอีก 1 หลักสูตรของ วิทยาลัยอุตสาหกรรมการบินนานาชาติลาดกระบัง ที่พี่ๆอยากจะแนะนำ เป็นหลักสูตรวิศวกรรมการบินและนักบินพาณิชย์ ที่เปิดรับในรอบที่ 1 จำนวน 50 คน นั้นก็เปิดรับคะแนน SAT Subject test เช่นกัน ซึ่งน้องจำเป็นต้องมี คะแนนสอบในมือทั้งหมด 3 กลุ่ม อีกเช่นเคยตามเกณฑ์ดังนี้
1.) English Proficiency กลุ่มคะแนนภาษาอังกฤษ น้องๆสามารถเลือกสอบตามความถนัดได้ และเลือกยื่นคะแนนตัวใดตัวหนึ่ง โดยต้องผ่านเกณฑ์ ดังนี้
- TU-GET คะแนนเต็ม 1000 ต้องผ่านเกณฑ์ 500
- CU-TEP คะแนนเต็ม 120 ต้องผ่านเกณฑ์ 65
- IELTS คะแนนเต็ม 9.0 ต้องผ่านเกณฑ์ 5.5
- TOEFL (iBT) คะแนนเต็ม 120 ต้องผ่านเกณฑ์ 65
2.) Math กลุ่มคะแนนคณิตศาสตร์ น้องๆก็สามารถเลือกสอบตามความถนัดได้ และเลือกยื่นคะแนนตัวใดตัวหนึ่ง โดยต้องผ่านเกณฑ์ ดังนี้
- SAT MATH คะแนนเต็ม 800 ต้องผ่านเกณฑ์ 600
- SAT Subject test Math Level II คะแนนเต็ม 800 ต้องผ่านเกณฑ์ 600
- CU-AAT MATH คะแนนเต็ม 800 ต้องผ่านเกณฑ์ 480
3.) Physics กลุ่มคะแนนวิชาฟิสิกส์ น้องๆก็สามารถเลือกสอบตามความถนัดได้อีกเช่นกัน และเลือกยื่นคะแนนตัวใดตัวหนึ่ง โดยต้องผ่านเกณฑ์ ดังนี้
- SAT Subject test Physics คะแนนเต็ม 800 ต้องผ่านเกณฑ์ 600
- CU-ATS คะแนนเต็ม 1600 ต้องผ่านเกณฑ์ 800
จากทั้ง 3 มหาลัยน้องๆจะสามารถเห็นได้ว่า กลุ่มคะแนนหลักๆที่น้องๆควรจำเป็นต้องมีได้แก่ IELTS, SAT MATH, SAT Subject test Math level II, SAT Subject test Physics และ SAT Subject test Chemistry ซึ่งคะแนนพวกนี้สามารถใช้ในการยื่นเข้าได้หลายมหาวิทยาลัยได้สำหรับน้องๆที่ยังไม่มั่นใจว่าตัวเองอยากเข้าเรียนที่ไหนต่อดี
ขั้นตอนที่ 2 การวางแผนเตรียมตัวสอบเข้า วิศวะอินเตอร์
เมื่อผ่านขั้นแรกที่น้องๆต้องศึกษาข้อมูลสำหรับหรับมหาลัยที่ต้องการเข้าแล้วว่าต้องใช้คะแนนอะไรมายื่นบ้าง ขั้นที่สองก็คือการเตรียมตัวและการวางแผนสอบเข้าตามข้อมูลดังนี้ค่ะ
TIMELINE สนามสอบ
สำหรับสนามสอบ SAT จะเปิดแค่ 4 รอบ ต่อปี ส่วน SAT Subject Tests จะเปิดสอบ 5 รอบต่อปี (สอบได้สูงสุด 3 วิชา) การสอบจะเป็นในวันและเวลาเดียวกันดังนั้นถ้ามีการสอบในเดือนนึงที่เวลาตรงกันต้องเลือกวิชาใดวิชาหนึ่ง
ในส่วน IELTS มีจัดสอบในทุกเดือนเดือนละ 4 ครั้ง น้องพร้อมเมื่อไหร่ก็ไปหาเวลาสอบที่เหมาะสมได้เลย ซึ่งคะแนนสอบจะมีอายุในการใช้ยื่นได้ 2 ปี
รูปภาพ Timeline การสอบ
สำหรับแนวทางในการเตรียมตัวสอบเข้าวิศวะอินเตอร์ พี่ๆได้จัดทามไลน์ในการเตรียมตัวสอบของน้องๆแต่ละชั้นเรียนตั้งแต่ น้อง ม.4, ม.5 และ ม.6 ซึ่งน้องแต่ละชั้นก็จะมีเวลาใรการเตรียมตัวต่างกันออกไป แนะนำให้น้องๆรีบเตรียมตัวไวก็จะยิ่งได้เปรียบเพราะโอกาสในการสอบก็จะเยอะขึ้น สามารถชินกับข้อสอบและระยะเวลาการสอบได้เร็วก็จะยิ่งได้เปรียบกว่าคนอื่นก่อนอื่นมาลุยกับ ม.4 ก่อนกันเลย
สำหรับน้อง ม.4 มีโอกาสในการวางแผนเตรียมการและการลงสนามสอบมากกว่า ม.5 และ ม.6 ทำให้มีโอกาสเก็บเกี่ยวประสบการณ์และการฝึกตะลุยโจทย์เพียงแค่มีการวางแผนเตรียมการที่ดีก็มีชัยไปกว่าครึ่ง
พี่ขอให้น้องเริ่มสตาร์ทตั้งแต่ช่วง Summer กันเลยตั้งแต่ April – June น้อง ม.4 สามารถลงติวได้ตั้งแต่คอร์สปูพื้นฐาน Pre-inter และ Pre SAT MAT เพื่อปรับพื้นฐาน Grammar , Reading , Vocabulary , Listening และ Writing หรือถ้าคนไหนที่พอจะมีพื้นฐานอยู่แล้ว สามารถไปเริ่มสตาร์ทคอร์สต่อๆไปได้เลยทั้ง SAT ENG , SAT MAT บวกกับต้องฝึกตะลุยโจทย์ให้สม่ำเสมอ พอถึงช่วงเปิดเทอม1 ถึง เทอม 2 น้องๆสามารถไปลองเทสสนามสอบ SAT ได้ประมาณทั้งหมด 6 รอบ ซึ่งอย่างน้อยควรไปลองสนามก่อนสัก 1 ครั้ง ในระหว่างช่วงของการสอบแต่ละเดือนที่จะมาถึงน้องๆ สามารถเตรียมตัวเรียนเพิ่มเติมไปในเรื่องของ Adv. SAT ENG และ Adv. SAT MATH พร้อมฝึกติวเข้มๆไปด้วยก่อนจะจบในช่วงม. 4 เทอม 1 พอเริ่มเทอม 2 ไปถึงช่วง summer ปี 2022 น้องๆต้องรีบเตรียมฝึกตะลุยโจทย์วิชา BMAT ไปด้วยเพราะจะได้เตรียมสอบทันในช่วง ม.5 เทอม 1
พอช่วงขึ้น ม.5 น้องสามารถเรียนเสริม วิชา BMAT และฝึกทำโจทย์เพื่อเก็บประสบการณ์ให้มีความคุ้นชินกับข้อสอบมากขึ้นไปอีก และน้องๆ ยังสามารถเพิ่มวิชา IELTS / CUTEP เข้าไปได้อีก เพื่อจะเตรียมลงสนามสอบรอบแรกในการสอบ BMAT + IELTS ในช่วงเดือนเดียวกันในช่วงเทอม 1 แต่ถ้ายังไม่แน่ใจว่าคะแนนจะออกมาดีพอ น้องๆยังมีโอกาสสอบในรอบของเทอม 2 ได้อีก พร้อมทั้งอัดคอร์ส Adv. IELTS/CU-TEP เสริมเข้าไปเพื่อให้ได้ฝึกตะลุยและติวโค้งสุดท้ายในการทำโจทย์อย่างเข้มข้มให้มีความมั่นใจให้การทำคะแนนมากขึ้น
และในช่วงเทอม 1 ของ ม.5 ควรฝึกติวในวิชา SAT Subject Test เพื่อลองสนามสอบครั้งแรกในช่วงเดือน ตุลาคม 2022 แต่ถ้าใครยังคิดไม่ออกว่าจะเริ่มจากวิชาไหนก่อน แนะนำให้เริ่มจาก SAT MATH LV II ก่อนค่ะ เนื่องจากน้องมีพื้นฐานมาจาก SAT MATH อยู่แล้ว ส่วนอีกวิชาที่อยากแนะนำคือ SAT Physics เพราะเนื้อหาที่ออกสอบค่อนข้างเยอะ และมีหลายบทที่ไม่มีสอนในหลักสูตรการเรียน ซึ่งในส่วนนี้พี่ๆก็มีคอร์สของทาง InterPass วิชาสรุปเนื้อหาและตะลุยโจทย์ข้อสอบเก่าย้อนหลัง 10 ปี รวมทั้งเก็งข้อสอบล่าสุดข้อสอบที่ออกบ่อยและ Vocabulary ที่จำเป็นต่อการทำข้อสอบ
พอขึ้นมาช่วงม.6 น้องๆจะมีประสบการณ์ที่สั่งสมมาแน่นมากพอที่จะลุยแบบจริงจังเต็มที่มากขึ้นไปได้อีก เรียกว่าสามารถลุยได้ทุกวิชาแบบไม่หวั่นเกรงกันเลยทีเดียว สามารถเริ่มเก็บคะแนน SAT ได้ตั้งแต่ช่วง Summer ของม.6 เอาคะแนนรอบที่ดีที่สุดยื่นแล้วพอเข้าช่วงเทอม 1 ก็จะเป็นช่วงของการสอบ BMAT ช่วงนี้ยังพอมีเวลาในการติวโค้งสุดท้ายกันได้ พอช่วงตุลาคมจะกลับมาสอบ SAT อีกรอบและ BMAT ในช่วงพฤศจิกา ระหว่าง 2 เดือนนี้น้องๆสามารถเรียนเพิ่มในคอร์สเรื่อง inter writing สำหรับเตรียมสอบ Essay ที่เน้นโครงสร้างการเขียน เนื้อหาแยกบทครบถ้วนทุกคณะที่มีสอบเขียน เช่น BBA, BE, BJM, BALAC, BAS, COMMARTS และ BEC พอช่วงธันวาคมจะเก็บคะแนนรอบสุดท้ายของ IELTS/CU-TEP หลังจากนั้นจะเป็นการลงคอร์สติว inter interview ให้น้องๆมีความมั่นใจในการเตรียมพร้อมสอบในรอบสัมภาษณ์หลังจากยื่นคะแนนสอบแล้ว
น้องๆในช่วงม.4 จะเห็นได้ว่าจากทั้งทามไลน์น้องๆจะมีโอกาสในการสอบมากกว่าระดับชั้นอื่นๆ ที่สามารถเก็บประสบการณ์ได้นานกว่าถ้ามีการเตรียมตัวและฝึกฝนความรู้สะสมไว้ ทั้งได้ทดลองลงสนามสอบได้หลายครั้ง และสามารถทำคะแนนได้ตามเป้าในช่วงชั้นที่ถัดขึ้นมาได้ดีขึ้น จึงควรรีบเตรียมตัวให้ดีเพื่อคะแนนที่จะออกมาเป็น perfect score ได้อย่างหายห่วงนะค่ะ
สำหรับทามไลน์ของน้องๆชั้น ม.5 ทามไลน์จะบีบเข้ามานิดนึง น้องจะต้องรีบเตรียมตัวให้เร็วขึ้นไปอีกขึ้น เพราะน้องจะเหลือการสอบ SAT ประมาณ 6 รอบ และ SAT II 8 รอบ BMAT 2 รอบตามตารางที่พี่ได้แนบเอาไว้ให้ซึ่งในบางรอบน้องๆจะต้องเลือกสอบวิชาใดวิชานึงเพราะเนื่องจากวันจัดสอบจะมีทั้งวันและเวลาเดียวกัน
หากน้องๆม.5 ที่ยังไม่มีคะแนนเก็บ พี่ๆแนะนำให้เตรียมตัวในการสอบ ตั้งแต่ปูพื้นฐานของวิชา SAT และ BMAT ก่อนตั้งแต่ช่วง Summer 2021 เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการสอบช่วงเทอม 1 เพราะสำหรับ ม.5 เทอม 1 ถึงครึ่งแรกเทอม 2 น้องจะมีโอกาสสอบ SAT ได้ประมาณ 6 รอบและถ้าอยากเรียนเสริมในช่วงเปิดเทอม แนะนำให้รีบติวคอร์ส Adv. SAT เอาไว้เพื่อให้ได้ฝึกทำโจทย์ที่เข้มข้นอยู่ตลอดเวลา
ในช่วงครึ่งแรกของเทอม 2 น้องๆยังสามารถเตรียมในเรื่องของการติววิชา IELTS/CU-TEP เอาไว้ได้ตั้งแต่ต้นไปจนจบชองเทอม 2 และในต้นของเทอม 2 ยังสามารถเก็บวิชา SAT Subject Test เอาไว้ และลองไปสอบ SAT II ได้ในช่วงท้ายของเทอม 2 ของ ม.5 เพื่อให้รู้และชินกับโจทย์และเวลาในการสอบ
ในช่วงม.6 ต้องเริ่มเก็บคะแนนของ IELTS/CU-TEP ตั้งแต่ช่วง summer และเทอม 1 พอมาถึงช่วงตุลาคม ต้องเก็บคะแนนรอบสุดท้ายในส่วนของพลาดไปของวิชา SAT/SAT II พอช่วง พฤศจิกา จะเป็นการเก็บคะแนนของ BMAT ในรอบก่อนหน้านี้ที่พลาดและในช่วงธันวาจะเป็นการเก็บรอบสุดท้ายของ IELTS/CU-TEP
ในส่วนของเวลาที่เหลือนั้นน้องๆสามารถลงติวในเรื่องของการทำโปรไฟล์และการสัมภาษณ์ น้องๆสามารถมาเตรียมตัวกับพี่ๆ InterPass ได้โดยการลงคอร์ส Inter Interview ก่อนจะยื่นคะแนนที่สอบมาเข้าคณะที่น้องๆต้องการค่ะ
สำหรับน้อง ม.6
สำหรับน้อง ม.6 คนไหนที่พลาดการสอบในรอบต่างๆไป การสอบรอบช่วงปลายปีจะเป็นรอบชี้ชะตาที่ต้องตั้งใจมากค่ะ เพราะน้องๆจะพลาดไม่ได้แล้ว และถ้ายังไม่มีคะแนนอะไรเก็บไว้เลยน้องๆต้องรีบเตรียมตัว ตั้งแต่ช่วง summer คือช่วงเดือน เมษา – มิถุนาต้องรีบปูพื้นฐานเริ่มแรกก่อนเลยด้วยวิชา SAT เพื่อที่จะเตรียมความพร้อมในการสอบช่วงตั้งแต่ Mar – Dec จะมีโอกาสในการสอบประมาณ 6 รอบ และการสอบ BMAT จะมีโอกาสสอบอยู่ 2 รอบ และ การสอบ IELTS/ CU-TEP ในทุกเดือน เพราะฉะนั้นน้องควรจะรีบเตรียมความพร้อทเอาไว้ในการสอบและแบ่งเวลาในการติวพร้อมฝึกทำโจทย์ในทุกวิชาให้แม่นยำมากขึ้น พอใกล้ช่วงสุดท้ายของการสอบ SAT/SAT II ในช่วงเดือน ธันวาแล้วน้องๆควรมีเวลาสำหรับการฝึกเขียน Essay เอาไว้ด้วยและช่วงเวลาในการติวการฝึก interview ในตอนที่จะยื่นคะแนนและผ่านเขาสู่รอบสัมภาษณ์ ในช่วงต้นปี 2022 พี่แอดมินแนะนำว่าน้องม.6 คนไหนที่ตอนนี้ยังไม่มีคะแนนในมือเลย น้องอย่าพึ่งหมดหวังนะคะเพราะคณะอินเตอร์ยังมีเปิดรับในรอบอื่นๆอีก ทางที่ดีน้องควรมีแผนสำรองเผื่อไว้เลย ซึ่งสามารถเข้ามารับคำปรึกษาแบบรายบุคคลจากพี่ๆ InterPass ได้เลยนะคะ ที่สาขาสยามสแควร์ซอย 10 และสาขาวรรณสรณ์ชั้น 9
โดยรวมจากที่น้องๆได้เห็นทามไลน์ของแต่ละชั้นเรียนแล้วในการสอบเข้าหลักสูตรอินเตอร์นั้น การเตรียมความพร้อมและวางแผนในการเรียนเป็นสิ่งที่สำคัญมากค่ะ สำหรับน้องๆ เพราะจะช่วยให้เรามีโอกาสที่จะมีความพร้อมและได้เปรียบเพื่อนที่ๆเป็นคู่แข่งเราอีกมากด้วย ซึ่งโอกาสที่น้องๆจะได้รับคะแนนที่สูงมากขึ้นก็จะเป็นผลพลอยได้ที่น้องมีการเตรียมความพร้อมในการสอบไปด้วย
สำหรับน้องๆที่อ่านมาจนจบ blog นี้แล้วก็คงจะพอเข้าใจว่าถ้าน้องๆอยากสอบเข้าวิศวะอินเตอร์น้องๆต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้างตามขั้นตอนที่พี่ได้แจ้งไว้เบื้องต้น ทั้งหมดนี้นั้นจะทำให้เกิดผลได้น้องๆต้องมีความตั้งใจ และความเพียรในการมั่นฝึกซ้อมทำโจทย์อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้มีความคุ้นชินกับการสอบ พี่ๆ InterPass ขอส่งกำลังใจให้น้องๆทุกคนมีความพร้อมในการสอบพิชิตคณะในฝันของน้องให้ได้ตามที่ใจหวังทุกๆคนเลยนะคะ และถ้าน้องๆที่กำลังมองหาตัวช่วยที่ให้น้องพิชิตคณะในฝันได้ก็อย่าลืมพี่ๆ InterPass กันนะคะ สามารถเข้ามาปรึกษาและสอบถามพี่ๆเพิ่มเติมกันได้ที่ Line: @InterPass เพราะพี่ๆ InterPass มีคอร์สเรียนมากมายตั้งแต่ปรับตั้งแต่พื้นฐานไปจนถึงตะลุยโจทย์เนื้อหาแบบเข้มข้มเลยรับรองว่าตอบโจทย์น้องๆที่อยากเข้าคณะฝันอย่างแน่นอน
สามารถดูข้อมูลคอร์สเพิ่มเติมได้ที่: https://interpass.in.th/course_category/international-program/
สอบถามข้อมูล หรือ อยากวางแผนการเรียนไปพร้อมกับพี่ๆได้ทุกช่องทางทั้งที่ InterPass สาขาสยามสแควร์ซอย 10 และสาขาวรรณสรณ์ชั้น 9 หรือจะ Tel : 089-9964256, 089 -9923965 สมัครได้ทุกวัน ไม่มีวันหยุด 09:00 – 19:00 น.ได้เลยนะคะ
________________________________________
InterPass ที่ 1 ด้านอินเตอร์ ✈️
สอบถามคอร์สเรียน Inbox: m.me/interpassinstitute
Line: @InterPass
Tel: 089-9964256, 089-9923965