การเตรียมตัวก่อนสอบดีมีชัยไปกว่าครึ่ง! เนื่องจากเนื้อหาที่ใช้สอบมีมากมายเกินกว่าจะจำได้เพียงแค่วันเดียว การเตรียมตัวที่ดี จึงเป็นวิธีที่จะทำให้สอบผ่าน และทำให้ได้คะแนนดีอีกด้วย มาดูวิธีเตรียมตัวก่อนสอบ ที่เมื่อน้องๆ ได้อ่านจบ รับรองว่าข้อสอบไหนๆ ก็ผ่านฉลุยอย่างแน่นอน
ทำไมจึงต้องเตรียมตัวก่อนสอบ
ทุกครั้งก่อนที่จะมีการสอบ ไม่ว่าจะเป็นการสอบแบบในชั้นเรียน สอบเข้ามหาวิทยาลัย หรือสอบแข่งขันไหนก็ตาม เชื่อว่าน้องๆ อาจจะเคยได้ยินคนพูดอยู่เสมอว่า ถ้าอยากให้คะแนนการสอบออกมาดี ก็ควรที่ต้องเตรียมตัวก่อนสอบทุกครั้ง
เพื่อทำให้คะแนนสอบเป็นที่น่าพอใจ
เมื่อพูดถึงเรื่องผลคะแนนสอบ หลายคนก็ย่อมคาดหวังถึงคะแนนที่น่าพอใจ ซึ่งหากเรามีการเตรียมตัวก่อนสอบ เช่น การอ่านหนังสือทบทวนเนื้อหา การทบทวนข้อสอบเก่า และการเตรียมตัวอื่นๆ ก็จะช่วยให้ผลคะแนนที่สูงได้
ความผ่อนคลายมากขึ้น
อย่างที่รู้กันว่า เมื่อน้องๆ ได้เข้าสู่สนามสอบจริง ทุกอย่างรอบข้าง ก็อาจเต็มไปด้วยความกดดัน เช่น บรรยากาศแวดล้อม เวลาที่จำกัด และโจทย์ของข้อสอบ ถ้าหากน้องๆ ได้เตรียมตัวก่อนสอบ ก็จะช่วยลดความกดดัน สามารถคิดคำตอบได้อย่างถี่ถ้วน ซึ่งแน่นอนว่า ก็จะส่งผลดีต่อคะแนนสอบด้วยเช่นกัน
เพิ่มความมั่นใจในวันสอบจริง
ความกังวลเกี่ยวกับเนื้อหาที่ออกสอบ ก็เป็นเรื่องปกติธรรมดาที่ใครๆ หลายคนมักจะเป็นกัน โดยเฉพาะคนที่ไม่มีการเตรียมตัวก่อนสอบ เมื่อลงสู่สนามสอบจริง ก็ทำให้เกิดความกังวล และสูญเสียความมั่นใจได้ง่ายดาย
รวม 9 วิธีเตรียมตัวสอบให้ได้คะแนนดี ฉบับเข้าใจง่าย
หลังจากได้ที่รู้ถึงเหตุผลของการเตรียมตัวก่อนสอบไปแล้ว คราวนี้ก็มาดูวิธีเตรียมตัวสอบให้ได้คะแนนดีแบบไม่ต้องอดนอนได้เลย ดังนี้
1. จัดระเบียบพื้นที่ทบทวนหนังสือ
สำหรับพื้นที่การอ่านหนังสือ ก็ควรเป็นพื้นที่ที่เมื่อนั่งอ่านแล้ว ควรจะรู้สึกสบายและผ่อนคลายมากที่สุด ซึ่งสามารถจัดระเบียบได้ เช่น จัดโต๊ะให้เรียบร้อย พร้อมจัดเก้าอี้ให้สะดวกสบายต่อการอ่านหนังสือ และจัดวางให้อยู่ในบริเวณอากาศที่ถ่ายเท ซึ่งการจัดระเบียบนี้ จะช่วยไม่ให้รู้สึกอุดอู้เกินไปด้วย อาจเปิดเพลงที่มีแต่ทำนอง เปิดคลอไปเบาๆ ก็จะสามารถช่วยสร้างบรรยากาศได้ดีมากทีเดียว
2. วางแผนการอ่านหนังสือ
ก่อนการสอบ เราก็มักจะรู้ตารางสอบของตัวเองกันอยู่แล้วว่าต้องสอบช่วงไหน และมีวิชาไหนบ้าง จึงง่ายต่อการวางแผนอ่านหนังสือก่อน อย่างเช่น การแบ่งพาร์ทเนื้อหาว่าจะอ่านวิชาอะไร ทบทวนวันละ 1-2 วิชา หรือจะทบทวนวันละกี่ชั่วโมง เพื่อความเป็นระเบียบมากขึ้น เป็นต้น
โดยการทบทวนเนื้อหา ไม่ควรที่จะหักโหมเกินไป ควรมีเวลาให้ตัวเองได้พักบ้าง นอกจากนี้ หากต้องการตัวช่วย วางแผนการอ่านหนังสือ ก็ยังมี InterPlanner รูปแบบการวางแผนเฉพาะของ Interpass เพื่อการเตรียมสอบและติดตามผลให้น้องๆ ทุกคนประสบความสำเร็จในแบบตัวเอง
3. อ่านหนังสือทบทวนเนื้อหา และแลกเปลี่ยนเพื่อทบทวนความรู้
การอ่านหนังสือเพื่อทบทวนเนื้อหา สามารถอ่านได้ตลอดเวลา โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ใกล้ถึงตอนสอบเท่านั้น เพราะจะช่วยทำให้เราเรียนรู้และเข้าใจเนื้อหาเร็วขึ้น ซึ่งเทคนิคการอ่านทบทวนนั้น หากน้องๆ เจอเนื้อหาที่ไม่เข้าใจ ก็สามารถถามจากคุณครู หรือปรึกษากับคนที่มีความรู้มากกว่า รวมถึงการนั่งทบทวนกับกลุ่มเพื่อน ก็ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกันได้อีกด้วย
4. ฝึกทำข้อสอบเก่า
นอกจากวิธีเตรียมตัวสอบด้วยการอ่านหนังสือแล้ว ตัวเราเองก็ยังสามารถฝึกทำข้อสอบเก่าได้อีกด้วยนะ ซึ่งจะช่วยให้เมื่อถึงเวลาไปทำข้อสอบจริง ก็จะไม่เกร็ง และไม่เครียดจนเกินไป ในบางครั้งอาจจะเจอข้อสอบเก่าที่เคยทำ หากคนที่สนใจ อยากลองทำข้อสอบเก่า Test bank มีคลังข้อสอบให้น้องๆ ฝึกฝนทั้งออนไลน์และออฟไลน์ พร้อมกับ X-board เฉลยละเอียดย้อนหลังในเรื่องที่ไม่สนใจ
5. จดโน้ตสั้นให้เข้าใจง่าย
การจดโน้ตสั้นเป็นตัวช่วยให้เราจดจำได้ง่ายขึ้น เพราะการจดโน้ตสั้นสำคัญต่อการทบทวนเนื้อหา ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจเนื้อหาเต็มก่อน และจากนั้นจึงค่อยสรุปเนื้อหา เพื่อที่จะได้กลับมาอ่านทบทวนอีกครั้ง หรือการจดโน้ตสั้นที่มาจากเทคนิค WRighting Tools ซึ่งเป็นเทคนิคการเขียน Essay Writing ที่ช่วยให้ได้คะแนน IELTS 7.0+ ได้
6. พักผ่อนให้เพียงพอ
การฝืนร่างกาย และความคิดที่หักโหม ไม่ใช่สิ่งที่เป็นผลดีต่อการทบทวนความรู้ ถึงแม้ว่าการทบทวนหนังสือเป็นสิ่งสำคัญ แต่การพักผ่อนก็สำคัญไม่แพ้กัน เพราะหากอ่านจนไม่หยุดพัก อาจทำให้ร่างกายอ่อนล้า จนทำให้อ่านไม่เข้าใจ แต่ถ้าพักผ่อนเพียงพอ สมองจะทำงานเต็มที่ ร่างกายรู้สึกสดชื่น ทำให้เรามีสมาธิการอ่านมากขึ้น และไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพของเราอีกด้วย
7. รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ร่วมกับอาหารเสริม
อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ สำหรับการเตรียมตัวก่อนการสอบ คือ การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ เพราะสารอาหารต่างๆ ที่ได้รับ จะช่วยบำรุงสมองให้จดจำได้ดีขึ้น ซึ่งสารอาหารที่สำคัญต่อสมอง ได้แก่ วิตามินต่างๆ อย่าง วิตามินบี 1 วิตามินบี 6 วิตามินบี 12 วิตามินซี และวิตามินอี อาหารที่อุดมไปด้วยโปรตีนอย่าง ปลา ไข่ต้ม ขนมปังโฮลวีท ถั่วชนิดต่างๆ หรือผัก ผลไม้ อย่าง ผักใบเขียว กล้วย แอปเปิล เป็นต้น
8. ซ้อมสอบเสมือนจริง Simulation Test
เป็นการทดลองการทำข้อสอบ พร้อมกับการจับเวลาจริง จะช่วยประหยัดเวลาในการอ่านหนังสือ และช่วยให้เห็นภาพข้อสอบจริงมากขึ้น อีกทั้งยังทำให้ได้รู้ถึงจุดอ่อน และจุดแข็ง ของตัวเองในการทำข้อสอบ เพื่อที่เราจะสามารถนำมาปรับใช้เป็นวิธีการเตรียมตัวสอบของตัวเองได้
9. มีพี่โค้ชติดตามตลอดการเตรียมตัว
น้องๆ หลายคน ก็อาจจะเจอกับปัญหาการเริ่มต้นทบทวนหนังสือแบบผิดๆ ถูกๆ และขาดการวางแผน จนทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมา อาจจะดูไม่เป็นไปตามที่ใจหวังสักเท่าไหร่ แต่จะดีกว่า ถ้ามีวิธีการเตรียมตัวก่อนสอบที่ดี และมีคำแนะนำที่ดีจากพี่โค้ชตลอดการเตรียมตัว ซึ่ง Unlimited Inter Package SET C ก็เป็นคอร์สเรียน สำหรับการเตรียมตัวเข้าสอบเข้ามหาวิทยาลัย ที่มีพี่โค้ชคอยให้คำแนะนำ สำหรับการเตรียมตัวสอบ มี Planner ที่คอยช่วยวางแผนสำหรับการเตรียมตัวสอบอีกด้วย
อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับน้องๆ ที่ต้องการสอบ GED ซึ่งเป็นการสอบเทียบวุฒิการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายตามหลักสูตรการศึกษาของประเทศสหรัฐอเมริกา และต้องการนำมายื่นศึกษาต่อในระดับมหาวิทยาลัยภาคอินเตอร์ได้ ก็มีพี่โค้ชติดตามตลอดการติว และการเตรียมตัวเช่นกันในคอร์ส GED FAST TRACK อีกทั้งยังมีข้อสอบเก่าๆ ให้ลองทำ เพื่อฝึกทักษะ วัดความรู้อีกด้วย
สรุป
ก็ได้รู้กันไปแล้วกับวิธีการเตรียมตัวสอบให้ได้คะแนนดี ฉบับแบบไม่ต้องเคร่งเครียด และทำลายสุขภาพของตัวเอง ที่น้องๆ สามารถนำไปปรับใช้กับตัวเองได้ไม่ยาก เพราะหากเราเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ ก็ส่งผลดีต่อคะแนนสอบของเราด้วยเช่นกัน เพราะการไม่เร่งรีบจะทำให้แผนการสอบเป็นไปอย่างราบรื่น เป็นวิธีที่จะสร้างความมั่นใจ และสร้างความผ่อนคลายให้กับตัวเราด้วย
โดย Interpass มีคอร์สเรียนมากมายหลากหลายรูปแบบการเรียน เพื่อที่จะได้เตรียมตัวสอบก่อนเข้าไปสอบในสนามจริง ไม่ว่าจะเป็นคอร์สการเตรียมสอบเข้าภาคอินเตอร์ GRAMMAR FOUNDATION, ENHLISH FOUNDATION, IELTS, SAT, CU-TEP/TU-GET, GED, ACT, PORTFOLIO & RESEARCH